อุบลราชธานี - ตำรวจอุบลราชธานี นำหมายศาลเข้าตรวจโกดังบริษัทนำเข้า-ส่งออกไม้เนื้อแข็ง ชายแดนไทย-ลาว บริษัทระบุเป็นไม้ของนายทุนชาวจีน จ้างให้รวบรวมขนส่งไปลงเรือที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี พร้อมแสดงเอกสารการนำเข้าไม้ที่ระบุเป็นไม้ตระกูลชิงชัน ไม่ใช่ไม้พะยูง แต่การตรวจสอบพบไม้พะยูงปะปนอยู่ จึงอายัดให้ผู้เชี่ยวชาญของกรมป่าไม้ตรวจสอบ
สายวันนี้ (14 พ.ค.) พล.ต.ต.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ อบ.ที่ 14 เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านช่องเม็ก นำหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานี เลขที่ 253/2557 ลงวันที่ 13 พ.ค.2557 เข้าตรวจสอบโกดังเก็บไม้ของบริษัทจินดาอิมปอร์ตเอ็กปอร์ต แอนด์ทรานสปอร์ต จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 129 บ้านโปร่งดินดำ หมู่ 2 ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี หลังชุดสืบกองกำกับการสืบสวนตำรวจจังหวัด สืบทราบมีการนำไม้พะยูงมาปะปนกับไม้อื่นๆ
ทั้งนี้ มีนายประสงค์ ลีลา ผู้จัดการบริษัทเป็นผู้นำตรวจ พร้อมแสดงเอกสารการนำไม้ชิงชันขนาดหน้ากว้างประมาณ 30-50 เซนติเมตร ยาว 2 เมตร จำนวนกว่า 5,000 ท่อน จากประเทศลาวเพื่อส่งออกไปประเทศจีน
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบไม้พะยูงถากเป็นท่อนเหลี่ยมปะปนอยู่ตามกองไม้ จำนวน 21 ท่อน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท จึงทำการอายัดไม้ทั้งหมดกว่า 5,000 ท่อน เพื่อทำการตรวจสอบเนื้อไม้อย่างละเอียด
นายประสงค์ กล่าวว่า บริษัทได้รับจ้างจากนายทุนชาวจีน ซึ่งทำไม้ในประเทศลาวให้ทำการรวบรวมไม้ชิงชันทั้งหมด แล้วลำเลียงไปลงเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อส่งต่อไปประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ โดยไม้ทั้งหมดมีเอกสารกำกับการนำเข้ามาจากประเทศลาว ระบุชัดเจนเป็นไม้ชิงชัน ไม่ใช่ไม้พะยูงแต่อย่างใด
แต่เนื้อไม้ทั้ง 2 ชนิดมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก เมื่อเจ้าหน้าที่สงสัยก็สามารถตรวจสอบได้
ด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ ระบุว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ยืนยันมีไม้พะยูงปะปนอยู่กับกองไม้ชิงชันจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบแหล่งที่มาของไม้ดังกล่าวก่อน เพราะถือเป็นไม้หวงห้าม นำออกนอกประเทศไม่ได้ และการตรวจสอบไม้ทั้งหมดต้องใช้เวลา เพราะไม้มีจำนวนมาก รวมทั้งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญของกรมป่าไม้พิสูจน์ยืนยัน เพราะเนื้อไม้ชิงชันและไม้พะยูงมีความใกล้เคียงกันมาก