อปท.อุตรดิตถ์ครวญเจอพายุถล่มจนงบเกลี้ยง ต้องใช้เบี้ยผู้สูงอายุจ่ายแทน

อุตรดิตถ์ - องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอุตรดิตถ์ครวญกันทั่วหน้า เจอพายุฤดูร้อนถล่มกันแบบซ้ำซาก จนไม่มีเงินช่วยเหลือ บางแห่งต้องเอาเบี้ยผู้สูงอายุมาจ่าย บางแห่งต้องใช้เงินสะสมจนเกือบหมด ขออำเภอ-จังหวัดช่วย กลับเงียบเป็นเป่าสาก

วันนี้ (14 พ.ค.) นายสมิง คำสวน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ อบต.ออกสำรวจความเสียหายหลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำบ้านเรือนกลางดึกคืนวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยพบว่าบ้านพญาแมน หมู่ 4 มีบ้านเรือนถูกแรงลมพัดสังกะสีหลังคาบ้านเปิดเสียหาย 52 หลัง พระอุโบสถกระเบื้องหลังคาเปิดเสียหาย กุฏิพระหลังคาเปิดเสียหาย 4 หลัง เบื้องต้น อบต.ให้การช่วยเหลือบ้านเรือนประชาชนหลังคาละ 20,000-30,000 บาท

ก่อนหน้านี้หมู่ 3 และ 7 ต.พญาแมน เคยเกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำทำความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน 50 หลังคามาแล้วครั้งหนึ่ง หลังเกิดเหตุได้รายงานไปยังอำเภอพิชัย และจังหวัด เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณมาให้การช่วยเหลือประชาชน แต่ทั้งอำเภอและจังหวัดไม่เคยส่งคนมาดูแล หรือจัดสรรงบประมาณที่อยู่ในความดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัด 50 ล้านบาท ลงมาเยียวยาความเสียหายของประชาชนเลย

“ลำพัง อบต.พญาแมน ก็ให้การช่วยเหลือเท่าที่งบประมาณมีอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น” นายสมิงกล่าว

ด้านนางสกุลตรา บุตรที นายก อบต.นาขุม อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาเกิดพายุฤดูร้อนใน ต.นาขุม ถึง 3 ครั้ง เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชนมากกว่า 100 หลัง ทรัพย์สินอื่นๆ ของประชาชนเสียหายอีกจำนวนมาก

แต่การช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นแทบไม่มี อบต.ต้องนำเงินที่จะนำมาจ่ายให้ผู้สูงอายุ ออกมาช่วยซ่อมแซมปรับปรุงบ้านเรือนให้เข้าพักอาศัยอยู่ได้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปก่อน จึงทำให้เงินที่จะนำมาจ่ายให้ผู้สูงอายุล่าช้า อธิบายกับผู้สูงอายุแล้วก็เข้าใจ บางรายพร้อมยกเบี้ยที่ได้รับช่วยเหลือประชาชนที่บ้านพังเสียหายด้วยซ้ำ

ขณะที่นายศักดิ์ ดามัง นายก อบต.ฟากท่า อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ อบต.ฟากท่าแทบจะไม่มีงบประมาณมาพัฒนาพื้นที่ มีเพียงงบจ่ายเป็นเงินเดือนข้าราชการ เจ้าหนี้ และจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้บริหาร และสมาชิกเท่านั้น เพราะเงินที่ได้รับการอุดหนุนจากส่วนกลางไม่โอนมาให้ อบต. บางงวดให้มาก็ล่าช้า งบประมาณที่จะนำไปช่วยเหลือภัยแล้ง ภัยพิบัติธรรมชาติก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย จึงต้องนำเงินที่เก็บสะสมออกมาใช้สำรองไปก่อน

“ทุกวันนี้เงินก็แทบจะหมดแล้ว ยังมีปัญหาความเดือดร้อนและภัยที่จะมาอีกข้างหน้า คือ อุทกภัยและภัยหนาว ยังไม่รู้ว่าจะหางบจากที่ไหนมาสำรอง จึงอยากให้ส่วนกลางจัดสรรงบประมาณลงสู่ท้องถิ่นอย่างเร่งด่วนด้วย เพื่อนำไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่เจอปัญหาที่รุมเร้าหลายด้าน”