บุรีรัมย์ - ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเด็กหญิงวัย 16 ปี และน้องอีก 2 คน หลังถูกแม่พาไปค้าประเวณีจนถูก ตร.ล่อซื้อจับกุม อ้างหาเงินเลี้ยงลูกหลังเลิกกับสามี ซ้ำยากจนไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เบื้องต้นมอบเงินและสิ่งของช่วยเหลือ พร้อมหางานให้ทำเพื่อมีรายได้เลี้ยงตัวเองและน้อง ทั้งหาแนวทางช่วยเรื่องคดีแม่ที่ถูกจับ
วันนี้ (13 พ.ค.) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายจารึก เหล่าประเสริฐ นายอำเภอลำปลายมาศ, เหล่ากาชาดจังหวัด, เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด, บ้านพักเด็กและครอบครัว และเทศบาลตำบลลำปลายมาศ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ด.ญ.นิน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี พร้อมน้องสาวอีก 2 คน อายุ 9 ขวบ และ 1 ขวบเศษ ที่อาศัยอยู่ในบ้านไม้ชั้นเดียวสภาพทรุดโทรม ในหมู่บ้าน ต.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ ซึ่งปลูกในที่ดินของคนอื่นต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 100 บาท
หลังจากเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.วิภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้เป็นแม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับหลายหน่วยงานวางแผนเข้าล่อซื้อจับกุมแม่เล้าและหญิงค้าประเวณีในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งในจำนวนนี้ น.ส.วิภา ผู้เป็นแม่ก็ถูกจับกุม พร้อมกับ ด.ญ.นิน (นามสมมุติ) ลูกสาวด้วย
โดย น.ส.วิภาให้การรับสารภาพว่าได้ขายบริการจริง และได้พา ด.ญ.นิน ลูกสาววัย 16 ปี มาขายบริการด้วย โดยอ้างว่าสาเหตุที่ไปขายบริการและพาลูกไปขายบริการด้วยนั้นเพราะต้องการหาเงินเลี้ยงลูก หลังเลิกรากับสามีทำให้รายได้จากการเก็บของเก่าขาย และรับจ้างทั่วไปไม่เพียงพอเลี้ยงลูกทั้ง 3 คน
กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุม และถูกแจ้ง 4 ข้อหา “ร่วมกันค้ามนุษย์โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งเด็กอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม, เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น และเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปเพื่ออนาจารซึ่งเด็กอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปีโดยกระทำแก่ผู้สืบสันดาน” ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี
ในเบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ได้เป็นตัวแทนมอบสิ่งของ และเงินจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือ ด.ญ.นิน (นามสมมติ) และน้องอีก 2 คน พร้อมมอบหมายให้ทางอำเภอและเทศบาลฯ หางานให้ทำในพื้นที่เพื่อมีรายได้เลี้ยงตัวเองและน้องๆ ทั้งจะส่งเสียให้เรียนต่อการศึกษานอกโรงเรียน เพื่อจะได้มีความรู้ไปประกอบอาชีพ และให้ผู้นำชุมชนช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้กลับไปกระทำซ้ำเดิมอีก
ทั้งนี้ ทางจังหวัดฯ ยังจะหาแนวทางช่วยเหลือเรื่องคดีของ น.ส.วิภา ผู้เป็นแม่ในอีกทางหนึ่งด้วย เพราะเกรงว่าจะไม่มีใครเลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คน