สุรินทร์- เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางสุรินทร์จับกุมวัยรุ่นเพิ่งพ้นคุกมาเพียง 2 เดือน ลักลอบนำโทรศัพท์มือถือโยนเข้าไปในเรือนจำ ได้พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง พร้อมซิมการ์ด และเครื่องชาร์จ
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่เรือนจำกลางสุรินทร์ นายกฤษณ์ วงษ์เวช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุรินทร์ นายพิชัยยุทธ ยุติธรรมรักษ์ หน.เรือนจำชั่วคราวโคกตะบัน นายวรรณรัก ไชยตมาตย์ ผญบ.หมู่ 3 บ.ไทย ต.นอกเมือง และเจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางสุรินทร์ ได้ปิดล้อมบริเวณสระนำโคกตะบันใกล้กำแพงเรือนจำด้านหลัง และจับกุม นายวรวุธ สมันสวน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 14 บ้านโคกเพชร ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ และ นาย ก.(นามสมมติ)
พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 10 เครื่อง พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีชมพูดำ 1 คัน ขณะกำลังนำโทรศัพท์มือถือใส่ขวดขวดพลาสติก จำนวน 2 ขวด พันด้วยผ้าเทปหนาแน่น เตรียมโยนเข้าไปในเรือนจำ เพื่อส่งต่อให้แก่นักโทษซึ่งอยู่ภายใน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบหมึกลอตติ้งสีดำอีกจำนวน 5 หลอด เพื่อนำไปสักลายซุกซ่อนมาด้วย
จากการสอบถาม นายวรวุธ ให้การว่า ได้รับการติดต่อจากนายบอย ซึ่งเป็นนักโทษภายในเรือนจำกลางสุรินทร์ ให้ไปรับโทรศัพท์มือถือจากนายหน้าซึ่งตนไม่รู้จัก จำนวน 10 เครื่อง พร้อมเครื่องชาร์จ และหมึกลอดติ้ง แล้วนำมาใส่ขวดพลาสติกพันด้วยผ้าเทปอย่างหนาแน่แล้วให้มาโยนเข้าไปให้ในเรือนจำ ซึ่งจะได้รับค้างจ้างเป็นเงิน 1 หมื่นบาท หลังจากที่ได้โทรศัพท์มาแล้วและทำการบรรจุขวดตามที่นายบอย บอก
จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มากับ นาย ก. ที่ด้านหลังเรือนจำ และรอสัญญาณจะโยนมือถือเข้าไป แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับได้ก่อน และตนก็เพิ่งพ้นโทษจากคดีลักทรัพย์มาเพียง 2 เดือนเท่านั้น ก็มาถูกจับกุมอีก
นายกฤษณ์ วงษ์เวช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางเรือนจำได้มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ในการป้องกันการโยนสิ่งของ และยาเสพติดเข้าไปในเรือนจำ แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุดวิสาขบูชา แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมความพร้อมอยู่อย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งได้รับแจ้งว่า มีผู้คนภายนอกแปลกหน้าเข้ามาใกล้กำแพงเรือนจำด้านหลัง บริเวณสระนำโคกตะบัน เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่เรือนจำชั่วคราวโคกตะบัน เข้าปิดล้อมตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ทั้ง 2 คน มีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบขวดพลาสติกขนาดใหญ่ 2 ขวด และพันด้วยผ้าเทปสีน้ำตาลอย่างมิดชิด ซึ่งทั้ง 2 คน พยายามที่จะเหยียบให้จมโคลนเพื่อปิดบังเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดและตรวจสอบพบเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 10 เครื่อง พร้อมเครื่องชาร์จ และซิมการ์ด 2 ซิม พร้อมหมึกลอดติ้งอีก 5 ขวด
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ได้รับค่าจ้างเป็น 1 หมื่นบาท ให้นำโทรศัพท์ทั้งหมดโยนเข้าไปในเรือนจำ โดยมากับเพื่อนอีก 1 คน โดยจะได้รับค่าจ้างหลังเสร็จงาน แต่ไปไม่รอดโดนเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อน สำหรับโทรศัพท์ที่ตรวจยึดได้เป็นมือถือที่แตกยาก และมีราคาถูก แต่หากหลุดเข้าไปถึงภายในเรือนจำได้จะมีมูลค่าสูงถึงเครื่องละ 8 หมื่นบาท
