อุดรธานี - จ.อุดรธานี จัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปี 2557 อัญเชิญพระธาตุเขี้ยวแก้ว ให้พุทธศาสนิกชนสักการะ ระหว่างวันที่ 12-18 พฤษภาคม 57 ณ อุดรธานีฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี
วันนี้ (12 พ.ค. 57) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดธานี เป็นประธานเปิดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปี 2557 ภายใต้ชื่อโครงการ “ธรรมบูชา วิสาขา เมืองอุดร ฉลอง 121 ปี การก่อตั้งเมืองอุดรธานีไหว้บารมีพระเขี้ยวแก้ว” โดยมีพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกันประกอบกิจกรรม
นายกอบเกียรติ กาญจนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ในวันเดียวกัน คือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 เหตุการณ์ทั้งสามนี้ เกิดตรงกันพอดี นับเป็นเหตุมหัศจรรย์ยิ่งนัก ไม่มีบุคคลอื่นเสมอเหมือน วันวิสาขบูชาจึงเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ทั้งองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญสากลของโลก โดยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 54 พิจารณาและระบุว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดศาสนาหนึ่งของโลก ที่หล่อหลอมจิตวิญญาณของมนุษยชาติมานาน ควรที่จะยกย่องกันทั่วโลก จึงประกาศให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญสากลนานาชาติ นอกจากนี้คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2532 ให้วันวิสาขบูชาเป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 จนถึงปัจจุบัน
จังหวัดอุดรธานี ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ตระหนักถึงความสำคัญของวันสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดโครงการ “ธรรมบูชา วิสาขา เมืองอุดร ฉลอง 121 ปี การก่อตั้งเมืองอุดรธานี ไหว้บารมีพระเขี้ยวแก้ว” ขึ้น ระหว่างวันที่ 12-18 พฤษภาคม 2557 ณ อุดรธานีฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี เพื่อสร้างจิตสำนึกประชาชนทั่วไป เด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้าใจในวิธีปฏิบัติของการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี มีส่วนร่วมและสักการะพระบรมสารีริกธาตุ
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต สร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่า ความสำคัญของวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญสากลโลก และเพื่อสร้างจิตสำนึกประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญของต้นไม้และสิ่งแวดล้อม ร่วมกันอนุรักษ์ ส่งเสริม ขยายพันธุ์ รวมถึงปลูกป่าเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในความห่วงใยด้านป่าไม้และสิ่งแวดล้อม