ศูนย์ข่าวศรีราชา - สาวประจำตู้แลกเงินบริษัท เอสเอส เอ็กเซ้นท์ จำกัด โร่ร้องทุกข์พนักงานสอบสวน หลังถูกแก๊งแขกขาวหลอกแลกเงิน พร้อมฉกเงินสกุลต่างประเทศกว่า 1 แสนบาทหลบหนี
วันนี้ (5 พ.ค.) น.ส.ดวงมณี ฉลองเดช อายุ 25 ปี พนักงานประจำตู้แลกเงิน บริษัท เอสเอส เอ็กเซ้นท์ จำกัด เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังถูกแก๊งแขกขาวทำทีขอแลกเงิน ก่อนฉวยโอกาสฉกเงินสกุลต่างประเทศกว่า 1 แสนบาทหลบหนี เหตุเกิดที่ตู้แลกเงินตราสกุลต่างประเทศของบริษัท หน้าร้านโคเนโกะโอชิริ บาร์เบียร์ ริมถนนพัทยาสายสอง
โดย น.ส.ดวงมณี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติลักษณะคล้ายชาวตะวันออกกลาง หรือแขกขาว 2 คน ทำทีนำธนบัตรฉบับละ 100 ดอลลาร์มาขอแลกเปลี่ยนเป็นฉบับละ 50 ดอลลาร์ 2 ใบ เมื่อตนยื่นเงินให้ปรากฏว่าคนร้ายได้ขอแลกเงินเพิ่มอีก พร้อมกับชี้มาที่ลิ้นชักเก็บเงิน และพูดจาหว่านล้อมเพื่อขอดูพุทธศักราชที่พิมพ์ธนบัตร ตนจึงยื่นธนบัตรให้เลือกทั้งหมด
แต่คนร้ายกลับไม่ยอม ใช้มือสอดเข้ามายังช่องตู้แลกเงิน และคว้าเอาเงินทั้งหมด ทำให้ตนรู้สึกตกใจ และดึงเงินกลับมา คนร้ายไม่พอใจเดินหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อนำเงินกลับใส่ลิ้นชักก็พบว่าเงินสกุลต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์ ยูโร สูญหายไปเกือบ 1 แสนบาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และไปตรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดประจำตู้แลกเงินจุดเกิดเหตุเพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (5 พ.ค.) น.ส.ดวงมณี ฉลองเดช อายุ 25 ปี พนักงานประจำตู้แลกเงิน บริษัท เอสเอส เอ็กเซ้นท์ จำกัด เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังถูกแก๊งแขกขาวทำทีขอแลกเงิน ก่อนฉวยโอกาสฉกเงินสกุลต่างประเทศกว่า 1 แสนบาทหลบหนี เหตุเกิดที่ตู้แลกเงินตราสกุลต่างประเทศของบริษัท หน้าร้านโคเนโกะโอชิริ บาร์เบียร์ ริมถนนพัทยาสายสอง
โดย น.ส.ดวงมณี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติลักษณะคล้ายชาวตะวันออกกลาง หรือแขกขาว 2 คน ทำทีนำธนบัตรฉบับละ 100 ดอลลาร์มาขอแลกเปลี่ยนเป็นฉบับละ 50 ดอลลาร์ 2 ใบ เมื่อตนยื่นเงินให้ปรากฏว่าคนร้ายได้ขอแลกเงินเพิ่มอีก พร้อมกับชี้มาที่ลิ้นชักเก็บเงิน และพูดจาหว่านล้อมเพื่อขอดูพุทธศักราชที่พิมพ์ธนบัตร ตนจึงยื่นธนบัตรให้เลือกทั้งหมด
แต่คนร้ายกลับไม่ยอม ใช้มือสอดเข้ามายังช่องตู้แลกเงิน และคว้าเอาเงินทั้งหมด ทำให้ตนรู้สึกตกใจ และดึงเงินกลับมา คนร้ายไม่พอใจเดินหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อนำเงินกลับใส่ลิ้นชักก็พบว่าเงินสกุลต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์ ยูโร สูญหายไปเกือบ 1 แสนบาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และไปตรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดประจำตู้แลกเงินจุดเกิดเหตุเพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป