พระนครศรีอยุธยา - ไฟไหม้บ่อขยะของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาดับแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงกว่า 30 คันเข้าดับเพลิงที่ลุกไหม้ตลอดทั้งคืน ขณะที่รองนายกเทศมนตรีนครกรุงเก่า สั่ง จนท.เร่งสำรวจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ "ผู้ว่าฯ อยุธยา" เข้าตรวจสอบไฟไหม้กองขยะ พร้อมมอบตำรวจเรียกชาวนาสอบสวนหาคนผิด พร้อมตักเตือนเผาซังข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดไฟลุกไหม้ภายในบ่อขยะของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และท้องที่ใกล้เคียงได้ระดมกำลังรถดับเพลิงกว่า 30 คัน ช่วยกันดับไฟที่ลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถดับไฟที่ลุกไหม้บ่อขยะได้แล้ว หลังใช้ความพยายามตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา แต่ถึงขณะนี้ยังคงมีรถดับเพลิงของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และเทศบาลข้างเคียงอีกประมาณ 10 คัน กระจายกันใช้น้ำฉีดบริเวณจุดที่มีควันระอุอยู่ด้านล่าง เพื่อกันการปะทุของเชื้อไฟขึ้นมาอีก
นายปรีชา ขันธไพรศรี รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้ทำการดับเพลิงอย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งคืนจนเพลิงสงบเมื่อเวลาประมาณ 03.30 น.แต่เพื่อความแน่ใจจึงได้ทำการเดินสำรวจ และแบกเครื่องสูบน้ำเข้าไปฉีดซ้ำ
ด้านว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา ได้ประสานกับนายอภิชาต สุขสมบูรณ์ นายก อบต.บ้านป้อม ในการส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับบ่อขยะ โดยเฉพาะชุมชนร่วมใจพัฒนา แต่เบื้องต้นยังไม่พบประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ยังร่วมกับทาง อบต.บ้านป้อม จะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครเข้าไปตรวจสอบ และระวังบริเวณโดยรอบบ่อขยะที่ยังพบว่าอาจจะมีการเผาซังข้าว หรือเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นอีก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำต่อไป
นางกาญจนา เผือกขวัญดี อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 62/31 หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้กองขยะ เปิดเผยว่า ไฟไหม้กองขยะควันก้อนใหญ่ลอยเข้าบ้าน หายใจไม่ออก มีกลิ่นเหม็น ไม่สามารถอยู่บ้านได้
"ที่บ้านมีเด็กหลายคนและคนท้องรวมอยู่ด้วยต้องไปอาศัยบ้านญาติหลับนอน บ้านก็ทิ้งไม่ได้ โจรขโมยเยอะมาก มียาบ้าระบาดวิ่งเข้าออกบ้าน แต่ยังดีที่ชาวบ้านรวมตัวตั้งเวรยามเฝ้าระวังตรวจตราตลอดทั้งคืน บางบ้านทนควันและกลิ่น ไม่สามารถทิ้งบ้าน ทั้งๆ ที่ทาง อบต.บ้านป้อม เปิดให้ประชาชนพักพิงและหลับนอนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา"
ด้านนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยระหว่างเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุไฟไหม้กองขยะ หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ในขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไปกว่า 90% ก็จะเหลือแต่กลุ่มควัน ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านป้อม เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่อยู่ใกล้บ่อขยะ และได้รับผลกระทบจากกลุ่มควันแล้ว นอกจากนั้นยังขอความร่วมมือจากภาครัฐเพื่อขอสนับสนุนรถคับเพลิงแรงดันสูงเข้ามาช่วยดับไฟ นอกจากนั้นยังต้องเร่งเปิดทางแหล่งน้ำเพื่อนำเข้ามาให้ใกล้ที่สุดเพื่อจะได้เพียงพอกับรถดับเพลิงน้ำแรงดันสูง
สำหรับกลุ่มควันนั้นทางผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยืนยันว่า ไม่มีสารเคมีแต่อย่างไร เพราะเป็นบ่อขยะที่ห้ามนำสารเคมีมาทิ้ง แต่กลิ่นนั้นอาจเหม็นบ้านก็เกิดจากการเผาไหม้ของขยะ สูดดมเข้าไปอาจมึนศรีษะบ้าง แต่หากอยู่ในที่โลงแจ้งก็จะไม่เป็นอะไร
"ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกชาวนาที่รอบๆ กองขยะมาสอบสวนหาคนทำผิดมาให้ได้ แต่ทั้งนี้จะยังไม่มีการลงโทษ แต่จะว่ากล่าวตักเตือนก่อน โดยเฉพาะพวกชาวนาที่เร่งเผาตอซังข้าวเพื่อให้ทันฤดูปลูกข้าว และชาวบ้านรอบๆ กองขยะ ที่มีผลกระทบควันและกลิ่นให้องค์การบริหารส่วนตำบล ทำอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชน ให้รับประทานชั่วคราวไปก่อน รวม 100 กว่าครัวเรือน" นายวิทยา กล่าว
ผอ.รพ.กรุงเก่า สั่งทีมแพทย์ลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. น.พ.ธานินทร์ สีวราภรณ์สกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้คณะแพทย์ พยาบาลลงพื้นที่สำรวจออกสำรวจตรวจร่างกายประชาชนและชาวบ้านในหมู่บ้านคิดถึง หมู่ที่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ปลูกสร้างติดกับบ่อขยะของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา หลังเกิดไฟไหม้และในขณะนี้ยังมีควันไฟพวยพุ่งอยู่พร้อมทั้งส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณดังกล่าว ทำให้ประชาชนและชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงบ่อขยะกำลังได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
พญ.ดวงพรอัศวราชันย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา นำทีมแพทย์พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ เกี่ยวกับการใช้หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค หลังจากมีการเกิดเพลิงไหม้บ่อขยะดังกล่าว
ทั้งนี้ ทีมแพทย์พยาบาลลงพื้นที่ร่วมประเมินสถานการณ์และได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนในชุมชนและหมู่บ้านที่ติดกับบ่อขยะ ให้สามารถออกไปพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์ที่วัดท่าการร้อง ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา และ อบต.บ้านป้อมแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์-พญาบาล มีความเป็นห่วงสุขภาพใน เด็กเล็ก คนแก่ ผู้หญิงตั้งครรภ์ ไม่ควรพักอาศัยในพื้นที่เสี่ยงและสูดดมกลิ่นควันดังกล่าว เนื่องจากทำให้เป็นโรคหอบหืดหรือมีสารพิษ ไปสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นหากประชาชนที่ยังประสงค์พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จึงควรปิดบ้านให้มิดชิด เปิดพัดลมระบายอากาศ เปิดแอร์ และไม่ควรออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น
ขณะที่นายสุเมธา วิเชียรเพชร ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการฉุกเฉินกรมควบคุมมลพิษ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ลงตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ชุมชนโดยรอบ พบว่าในช่วงเช้ามีมลพิษเกิดค่ามาตรฐาน แต่ในช่วงบ่าย มีการตรวจซ้ำอีกครั้ง พบว่ามีทิศทางดีขึ้น จนถึงปัจจุบันพบว่าไม่เป็นอันตรายแล้ว และมีค่าไม่เกินมาตรฐานกำหนด
ปลัด สธ.ลงพื้นที่กรุงเก่าตรวจสอบบ่อขยะไฟไหม้
วันเดียวกัน นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบบ่อขยะ และเดินทางต่อยังองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่กองขยะไฟไหม้ เพื่อรับฟังการรายงานการปฏิบัติหน้าที่จากนายปรีชา ขันธไพรศรี รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ในความรับผิดชอบ ซึ่งในขณะนี้ สามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัด เหลือแต่กลุ่มควันที่หนาแน่น
นายแพทย์ณรงค์ ยังได้กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานสาธารณสุข จัดเตรียมความพร้อมดูแล เด็ก ผู้สูงอายุ อย่างใกล้ชิด ถ้าบุคคลใดเจ็บไข้ ให้เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลได้ทันที โดยเฉพาะ เด็ก คนชรา ควรหลีกเลี่ยงหมอกควันกลิ่นให้มาก พร้อมทั้งชมเชย นายอภิชาติ สุขสมบูรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านป้อม ทำงานได้รวดเร็ว มีความพร้อมเข้มแข็งสามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัดได้เร็ว