กาญจนบุรี - เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องแถวไม้เก่าแก่ 2 ชั้นตลาดเมืองอู่ทอง บริเวณริมถนนอู่ทอง-เขาพระ กลางดึก พ่อค้า-ปชช.หนีตายอลหม่าน เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คันฉีดน้ำสกัดดับกว่า 3 ชม.หลังเพลิงสงบพบห้องแถวถูกไฟไหม้เสียหายรวม 17 ห้อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ตำรวจเร่งตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
วันนี้ (4 พ.ค.) ร.ต.ท.ชาฆินทร์ คล่องแคล่ว พนักงานสอบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.คืนวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องแถวก่อสร้างด้วยไม้หลายคูหา บริเวณริมถนนอู่ทอง-เขาพระ หมู่ 6 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลอู่ทอง และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ให้ไปสกัดเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง หลังประสานเรียบร้อยจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงศ์ ผกก.สภ.อู่ทอง พ.ต.อ.กระเษียร สุดตา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.อู่ทอง กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน
โดย พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้เดินทางมาสั่งการด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจักรนารายณ์ มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรีมาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ และรีบประสานไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอำเภออู่ทองให้ตัดกระแสไฟเพราะเกรงว่าพนักงานดับเพลิง และเจ้าหน้าที่มูนิธิจะได้รับอันตรายจากการถูกไฟช็อต
ที่เกิดเหตุพบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารไม้สูง 2 ชั้น ปลูกติดกันเกือบ 20 คูหาอย่างรุนแรง พ่อค้าประชาชนที่อยู่ที่เกิดเหตุต้องวิ่งหนีตาย และช่วยกันยกสิ่งของมีค่าออกจากบ้านกันอย่างโกลาหล รถดับเพลิง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ต่างระดมกำลังฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงไม่ให้ลุกลามไปติดบ้านเรือนที่อยู่ข้างเคียง
แต่เนื่องจากอาคารทั้งหมดก่อสร้างด้วยไม้จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถสกัดเปลวเพลิงเอาไว้ได้ แต่ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้ตลอดเวลา เพราะเกรงว่าเปลวเพลิงจะปะทุขึ้นมาอีก และจากการตรวจสอบพบว่าอาคารไม้ที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดรวม 17 คูหา โดยทั้ง 17 คูหา เป็นบ้านที่อยู่อาศัย รวมทั้งร้านค้าต่างๆ อีกหลายชนิด
ภายหลัง นายพัชรพล ตังอาพรรณ อายุ 19 ปี ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ตนออกไปทำธุระนอกบ้านจึงเปิดไฟทิ้งไว้ เมื่อกลับเข้ามาเห็นไฟดับ และได้กลิ่นควันไฟ ตนจึงรีบเข้าไปภายในบ้าน และเห็นกลุ่มควัน และเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้บนเพดาน ตนจึงรีบเคาะประตูห้องนอนตะโกนเรียกพ่อให้ตื่น และรีบช่วยกันตักน้ำมาดับ แต่ไม่ทันเปลวเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ตนกับพ่อจึงวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอดไว้ก่อน ส่วนทรัพย์สินภายในบ้านของตน คือ ห้องแถวเลขที่ 1341 ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
ส่วนนายปรีชา ตังอาพรรณ อายุ 59 ปี พ่อของนายพัชรพล ให้การว่า ที่บ้านประกอบอาชีพค้าขาย ขณะเกิดเหตุตนกำลังนอนหลับอยู่ภายในห้องนอน โชคดีที่ลูกชายไปทำธุระนอกบ้านแล้วกลับมาพบ แล้วรีบปลุกตนให้ตื่น ครั้งแรกที่เพลิงกำลังลุกไหม้บนเพดานตนกับลูกชายพยายามหาน้ำมาดับไฟอย่างเต็มกำลัง แต่ไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ตนกับลูกชายจึงตัดสินใจวิ่งหนีเอาตัวรอด พร้อมกับตะโกนให้เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันตื่นเพื่อให้หนีเอาตัวรอด
ด้าน พ.ต.อ.กระเษียร สุดตา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.อู่ทอง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า อาคารไม้มีสภาพเก่า ก่อสร้างมาประมาณ 50 ปี ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด 17 คูหา โดยมีทั้งที่อยู่อาศัย ร้านค้า ร้านเสริมสวย ร้านทำทอง และอื่นๆ อีกมากมาย เสียหายประมาณ 30 ล้านบาท
สำหรับต้นเพลิงคาดว่าไหม้มาจากอาคารเลขที่ 1341 ของนายปรีชา จากการสอบสวนพบว่า จุดเพลิงไหม้มาจากบนเพดาน เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอให้กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สุพรรณบุรี มาตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายปรีชา เจ้าของบ้านไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.อู่ทอง
สำหรับจุดเกิดเหตุเป็นอาคารอยู่ในตลาดอู่ทอง มีบ้านเรือนประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก หากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง รวมทั้งมูลนิธิต่างๆ ไม่สามารถช่วยกันสกัดเปลวเพลิงได้ทัน อาจจะทำให้ลุกลามไปไหม้ที่อื่นได้ และนับว่าโชคยังดีเพราะเหตุเกิดกลางดึกที่ประชาชนกำลังนอนหลับพักผ่อน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต