ทำแผนพ่อฆ่าลูกชายขี้เมา ชาวบ้านสงสารเรี่ยไรเงินให้หลังถูกจับ

หนองคาย- ลูกชายขี้เมา อาละวาด ใช้ไม้ตีพี่และน้องจนสลบ พ่อรีบเข้าห้ามยังถูกทำร้าย จึงแย่งไม้ในมือมาได้ ด้วยบันดาลโทสะ จึงใช้ไม้ตีลูกขี้เมา 2 ครั้งตายคาที่ ตำรวจควบคุมตัวพ่อไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ชาวบ้านสงสารพากันสละเงิน 20-100 บาท ไว้ให้ใช้ระหว่างถูกจับกุม

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้(2 พ.ค. ) พ.ต.ท.ฐนกร ถาวะโร รอง ผกก.(สส.) สภ.โพนพิสัย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พร้อมกำลังจำนวนหนึ่ง ได้ควบคุมตัวนายสงวน ทองละมัย อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 252 หมู่ 5 ต.นาหนัง อ.โพนพิสัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากใช้ไม้ไผ่ขนาดยาว 1 เมตร ตีนายทุ่งรัตน์ ทองละมัย อายุ 34 ปี ลูกชายของตัวเองจนตายคามือ

หลังจากที่นายทุ่งรัตน์ ผู้ตายใช้ไม้ไผ่ลำดังกล่าวตีนายสมศักดิ์ ทองละมัย อายุ 26 ปี น้องชายและนางขวัญ ทองละมัย พี่สาวได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา

นายสงวน ทองละมัย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนนอนดูโทรทัศน์อยู่บนบ้าน ตนได้ยินเสียงลูกชายและลูกสาวของตนทะเลาะกัน พร้อมได้ยินเสียงดังคล้ายมีการใช้ไม้ทุบตีกันอยู่ด้านล่างหน้าบ้านจึงออกมา ก็เห็นนายทุ่งรัตน์ ลูกชายกำลังใช้ไม้ไผ่ตีนายสมศักดิ์และนางขวัญ ซึ่งเป็นพี่สาวและน้องชายของนายทุ่งรัตน์เองจนล้มลงและนอนแน่นิ่งอยู่
ตนจึงรีบลงมาห้ามปราม

แต่แทนที่นายทุ่งรัตน์ จะหยุด กลับหันมาจะทำร้ายตน ตนจึงแย่งไม้ในมือมาได้ ด้วยความโมโหตนจึงใช้ไม้ไผ่ลำดังกล่าวตีเข้าที่ใบหน้าของนายทุ่งรัตน์ 2 ครั้ง จนนอนแน่นิ่งและขาดใจตายในที่สุด

ส่วนนางขวัญ ทองละมัย พี่สาวของนายทุ่งรัตน์ เล่าว่า ขณะที่ตนอยู่ภายในบ้าน ได้ยินเสียงน้องทั้งสองคนทะเลาะกันและเห็นนายทุ่งรัตน์กำลังใช้ไม้ไผ่ตีนายสมศักดิ์จนสลบ จึงรีบออกมาห้าม กระทั่งถูกนายทุ่งรัตน์ใช้ไม้ตีเข้าบริเวณปากและคางอย่างแรงจนสลบไปเหมือนกัน ซึ่งนายสงวนมักจะอาละวาดทุบตีนายสมศักดิ์ ทุกครั้งที่เมาและเป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

สำหรับนายทุ่งรัตน์ ผู้ตายเคยต้องคำพิพาษาของศาลให้จำคุกในคดียาเสพติด เพิ่งพ้นโทษมาได้ไม่กี่เดือน หลังพ้นโทษได้กลับมาอยู่ที่บ้านโดยไม่มีงานทำ แต่ละวันได้ออกไปหาดื่มเหล้าจนเมาและเมื่อกลับมาถึงบ้านมักจะอาละวาดทุบตีนายสมศักดิ์ ทุกครั้ง

หลังจากทำแผนเสร็จเรียบร้อย ขณะที่ตำรวจกำลังจะนำตัวนายสงวนกลับไปดำเนินคดี ได้มีญาติพี่น้องได้ร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสงสารนายสงวน ผู้เป็นพ่อ จึงได้สละเงินเท่าที่มีคนละ 20 บาทบ้างและ100 บาทบ้างใส่มือให้นายสงวน ไว้ใช้ระหว่างถูกควบคุมตัว

นายสงวน บอกว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวมากกว่า ส่วนลูกชายคนที่ตายตนไม่คิดถึง เพราะมีพฤติกรรมไม่ดีมานานแล้ว จึงควบคุมตัวนายสงวน ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป