นครพนม - พุทธศาสนิกชนจำนวนมากแห่ขอโชคเศียรพระใหญ่นครพนมแน่นวัด หลังมีผู้โพสต์และแชร์ภาพเศียรพระขนาดใหญ่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ ตะลึง! พบน้ำไหลหยดพระศอที่ขาด
วันนี้ (29 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนมว่า มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมาที่วัดพุทธนิมิต บ้านนาโสกเหนือ หมู่ 10 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน หลังมีผู้โพสต์และแชร์ภาพเศียรพระขนาดใหญ่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่าทางวัดจะขายเศียรพระพุทธรูปให้พ่อค้ารับซื้อของเก่าไปตั้งโชว์ร้านอาหาร-โรงแรม สร้างความหดหู่แก่ชาวพุทธไปแล้ว ซึ่งพบว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
หลังข่าวแพร่สะพัดออกไปมีประชาชนในตัวจังหวัดและอำเภอใกล้เคียงต่างทยอยเดินทางมาสักการะขอพรเศียรพระที่ขาดอยู่หน้าหอระฆังไม่ขาดสายจนที่จอดรถแน่นขนัด ทางวัดและคณะกรรรมการวัดจึงได้นำพระประธานพร้อมโต๊ะหมู่บูชาและธูปเทียนมาตั้งไว้ เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้กราบไหว้บูชาขอพรเป็นสิริมงคล
โดยเฉพาะยิ่งใกล้วันหวยออกผู้ที่ทราบข่าวต่างนำเครื่องเซ่นไหว้ เช่น มะพร้าว กล้วย องุ่น พวงมาลัย 7 สี ขันหมากเบ็งมาคล้องสักการะ บางรายก็พากันขึ้นไปบนเนินดินจุดพบซากปรักหักพังของพระพุทธรูปปางประทานพร ก่ออิฐถือปูน หน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 29 เมตร ซึ่งหักล้มพังทลายลงเพื่อขูดหาเลขเด็ดบริเวณไหล่องค์พระจนถึงนิ้วที่ยาวกว่า 4 เมตรกันอย่างคึกคัก
นายสิทธิชัย มิควาฬ อายุ 35 ปี ชาว อ.ธาตุพนม กล่าวว่า เดินทางมากับญาติพร้อมลูกหลานรวม 10 คน หลังทราบข่าวจากโทรทัศน์เมื่อช่วงเช้าตรู่ก็เกิดแรงศรัทธาจึงตั้งใจมาทำบุญเพื่อจะบูรณะเศียรพระ และไม่ลืมที่จะกราบไหว้ขอโชค ก่อนพบเลข 5 ใกล้ฝ่ามือ และพบนิ้ว 5 นิ้วโผล่ขึ้นเหนือดิน ซึ่งจะนำไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเสี่ยงโชคงวดวันที่ 1 พฤษภาคมนี้
นายลำเผย ชนะพจน์ ผู้ใหญ่บ้านนาโสกเหนือ หมู่ 10 กล่าวว่า หลังมีผู้คนทยอยเดินทางมาจำนวนมาก บางคนก็มาถ่ายภาพและแชร์ในสังคมออนไลน์กันคึกคัก ถือเป็นจุดดึงดูดคนมาวัด บางรายตั้งใจมาขอโชคหลังร่ำลือว่ามีผู้ถ่ายรูปติดที่โหนกแก้มพระด้านซ้าย พบเห็นเลขเด็ด 815, 915 ตามความเชื่อ ซึ่งวัดไม่ได้ห้าม เพียงแต่จะย้ายเศียรพระไปประดิษฐานบนเนินดินเพื่อให้เกิดเหมาะสม
“ส่วนที่มีน้ำไหลหยดออกจากพระศอ (คอ) ที่ขาด มีผู้นำภาชนะไปรองไว้เพื่อนำไปเป็นสิริมงคล ก็เป็นเรื่องแปลกแต่ไม่อยากให้งมงายมากนัก ส่วนยอดเงินที่ได้จากตู้บริจาค 2 วันกว่า 10,000 บาท จะนำไปบูรณะเศียรพระ ซึ่งในวันที่ 5 พฤษภาคมตรงกับวันฉัตรมงคล จะประกอบพิธีตั้งฐานเพื่อเตรียมบูรณะให้คงอยู่คู่พระพุทธศาสนาสืบไป”
นายพันธ์ศักดิ์ เอกพันธ์ อายุ 72 ปี ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า ช่วงตี 3 ได้ฝันว่ามีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาห้อมล้อมเศียรพระ อาจเป็นเพราะแรงศรัทธา หลังจากพระประจวบ อุชุชาโร พระจากวัดป่าลำสำราญ จ.อำนาจเจริญ ธุดงค์มาจากภูลังกา อ.บ้านแพง จะไปนมัสการองค์พระธาตุพนม ก่อนพลัดหลงกับกลุ่มพระ เมื่อเห็นวัดจึงแวะมาปักกลดที่วัดนี้
กระทั่งนิมิตเห็นเศียรพระฝังดินอยู่จึงจะนำไปบูรณะ ก่อนให้ญาติโยมว่าจ้างรถแบ็กโฮและรถเครนจะยกขึ้นรถ โดยไม่ได้ซื้อ-ขายแต่อย่างใด ทางวัดและคณะกรรมการวัดก็ยินยอม กระทั่งมีผู้พบเห็นและแจ้งให้นายอำเภอท่าอุเทน และวัฒนธรรมจังหวัดมาตรวจสอบ จึงระงับการเคลื่อนย้าย และเมื่อเห็นชาวบ้านจะบูรณะเองด้วยจึงยกเลิกความตั้งใจนั้นไป