นครพนม - ลือพระจากวัดแห่งหนึ่งขุดเศียรพระพุทธรูปเร่ขายในราคารับซื้อของเก่า พบนำตั้งโชว์ร้านอาหาร-โรงแรม สร้างความสลดใจแก่พุทธศาสนิกชน
วันนี้ (28 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มีการโพสต์ภาพและแชร์เศียรพระพุทธรูปขนาดใหญ่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีวัดแห่งหนึ่งใน ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จะขายเศียรพระพุทธรูปให้พ่อค้ารับซื้อของเก่าในราคา 20,000 บาท เพื่อจะนำไปตั้งโชว์ในร้านอาหารและโรงแรม พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ หลังปรากฏเป็นข่าวได้สร้างความสลดหดหู่แก่พุทธศาสนิกชนไปทั่วนั้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดพุทธนิมิต บ้านนาโสกเหนือ หมู่ 10 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พบว่าเศียรพระพุทธรูปดังกล่าวเป็นเศียรพระพุทธรูปปางประธานพร ยาว 3 เมตร ถูกนำมาตั้งเงยหน้าไว้ที่หน้าหอระฆังของวัด ใบหูข้างซ้ายแตกหัก มียางล้อรถยนต์ 1 เส้นรองไว้ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่มาดูไม่ขาดสาย ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด กรมศิลปากร ได้รุดมาตรวจสอบหลังตกเป็นข่าวเช่นกัน
นายอาจ เอกพันธ์ อายุ 66 ปี ไวยาวัจกรวัด กล่าวว่า เมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีพระรูปหนึ่งจาก จ.อำนาจเจริญ และโยม 1 คนเข้ามาที่วัดนี้เห็นเศียรพระพุทธรูปถูกกองทับถมอยู่บนเนินดิน พร้อมซากปรักหักพังขององค์พระ จึงแจ้งต่อพระอาจารย์ประเมิน ประภาโต เจ้าอาวาสวัด และคณะกรรมการวัดว่ามีความประสงค์จะนำไปบูรณะที่วัดใน จ.อำนาจเจริญ หากปล่อยทิ้งไว้เช่นนี้ไปอีก 50-100 ปีก็ไม่มีประโยชน์
ไวยาวัจกรวัดกล่าวต่อว่า หลังติดต่อทางโทรศัพท์กับพระรูปดังกล่าว พระรูปนั้นก็ได้ว่าจ้างรถแบ็กโฮและรถเครนในราคา 20,000 บาทเพื่อจะมายกเศียรพระนำไปบูรณะในช่วงเย็นของวันที่ 27 เม.ย. ขณะนั้นอาจมีชาวบ้านที่หวังดีมาพบเห็น ก่อนถ่ายภาพส่งไลน์ให้ผู้สื่อข่าวพร้อมระบุข้อความว่าทางวัดและคณะกรรมการวัดได้ขายเศียรให้พ่อค้าของเก่า ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทำให้ได้รับความเสื่อมเสียหาย ตรงกันข้ามกับขอบคุณบุคคลนั้นที่ทำให้คนทั่วไปได้รู้จัก จะได้มีผู้มีจิตศรัทธามาบูรณะเศียรพระองค์นี้
นายลำเพย ชนะพจน์ ผู้ใหญ่บ้าน บ.นาโสกเหนือ หมู่ 10 กล่าวว่า เศียรพระที่ขาดองค์นี้ เมื่อปี พ.ศ. 2531 มีโยมเจ้าของร้านนครพนมการค้าคนหนึ่งได้มาสร้างพระปางประธานพร หน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 29 เมตรรวมฐาน ขณะก่อสร้างฐานรากไม่ได้มาตรฐาน ก่อนล้มพังครืนทลายลง เคราะห์ดีที่ไม่ทับช่างตาย ทางวัดและคณะกรรมการวัดไม่มีกำลังศรัทธาจะบูรณะใหม่ จึงปล่อยทิ้งซากกองทับถมไว้นาน 26 ปี
“ตัวองค์พระ ไหล่พระ พระหัตถ์ และฐานรากได้แตกหักกระจัดกระจาย แต่จู่ๆ ก็มีคนนำไปออกข่าวเสียๆ หายๆ ว่าทางวัดและคณะกรรมการวัดจะขายเศียรพระให้พ่อค้ารับซื้อของเก่าในราคา 20,000 บาท อาจเข้าใจผิดและยังงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ล่าสุดทางวัดทอดผ้าป่าได้เงินกว่า 1 แสนบาทช่วงสงกรานต์คงไม่มีทางจะขายเด็ดขาด ออกข่าวสนุกแต่คนอื่นเสียหาย จึงทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่ว” ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาโสกเหนือระบุ
ด้านนางลัดดาวัลย์ ทิพย์สิงห์ หัวหน้าหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครพนม สำนักศิลปากรที่ 10 ร้อยเอ็ด กรมศิลปากร กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่าเศียรมีอายุกว่า 20 ปี จึงไม่เข้าค่ายเป็นโบราณวัตถุ โบราณวัตถุที่ขุดพบจะนำไปเป็นสมบัติของตนเองไม่ได้ ต้องแจ้งกรมศิลปากรทราบ
“ตาม พ.ร.บ.โบราณสถานโบราณวัตถุ ชาวบ้านหรือวัด และคณะกรรมการวัดจะซื้อจะขายเศียรพระให้กับพ่อค้าคนใดคนหนึ่งไม่ได้ หลังจากนี้จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลปกรมาตรวจสอบอีกครั้งว่ามีอายุถึง 100 ปี หรือมีคุณค่าแก่การรักษาไว้หรือไม่ ตรงข้ามอาจเป็นเรื่องดีที่จะได้ผู้มีจิตศรัทธามาบูรณะหลังข่าวแพร่สะพัดออกไป” นางลัดดาวัลย์กล่าวทิ้งท้าย