ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แกนนำ นปช.17 จังหวัดภาคเหนือสาย “สภาแดงล้านนา” สุมหัวเต็มร้านอาหารเมืองกว๊านพะเยา หารือแผนจัดสรรเงินระดมคนร่วมชุมนุมใหญ่เสื้อแดงที่อุตรดิตถ์ 30 เม.ย. และถนนอักษะ 6 พ.ค. 57 สะพัด “นายก อบจ.” โผล่ในร้านด้วย
วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงสาย “สภาแดงล้านนา” ภาคี 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่จัดขึ้น ณ ร้านอาหารครูไท บ้านต้ำ ม.8 ต.บ้านต้ำ อ.เมืองพะเยา สุดสัปดาห์นี้ มี พ.ท.สมภาร มุ่งการ ข้าราชการบำนาญที่เคยสังกัดจังหวัดทหารบกเชียงราย ผู้ประสานงานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งปัจจุบันยังเป็นแกนนำกลุ่มแดงเสรีพะเยา ซึ่งเป็นกลุ่มที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่เป็นแกนนำในการประชุม โดยมีการขึ้นป้ายว่า “หยุดทำร้ายประเทศไทย”
มีแกนนำคนเสื้อแดงบางกลุ่มในภาคเหนือเท่านั้นที่เข้าร่วม รวมประมาณ 70-80 คน ซึ่งในส่วนของ จ.เชียงราย มีนายชินวร ทิพย์นวล แกนนำสมัชชา นปช.เชียงราย และพรรคพวกเดินทางไปร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.เชียงราย เช่น กลุ่มลูกคนเมืองรักชาติเชียงราย กลุ่มเครือข่ายรักประชาธิปไตย จ.เชียงราย ฯลฯ ไม่ทราบเรื่องราวการประชุมดังกล่าวแต่อย่างใด
และระหว่างการประชุมที่มีลักษณะเหมือนการจัดโต๊ะเลี้ยงรับรองแกนนำจากกลุ่มต่างๆ จนเต็มร้านนั้น ปรากฏว่า นายวรวิทย์ บุรณศิริ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา เดินทางไปร่วมด้วย
สำหรับเนื้อหาการประชุมมีการปราศรัยกันถึงสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบันตามมุมมองของคนเสื้อแดง และนัดหมายให้แต่ละกลุ่มได้จัดเตรียมมวลชนไปร่วมการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ส่วนกลางซึ่งกำหนดเอาไว้ที่ถนนอักษะ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ในวันที่ 6 พ.ค.นี้ แต่ก่อนหน้านั้นจะมีการชุมนุมกลุ่มย่อยในภาคเหนือในวันที่ 30 เม.ย. 57 ที่อุตรดิตถ์ ก่อนในนามกิจกรรม นปช.แดงทั้งแผ่นดินเคลื่อนพลคนประชาธิปไตย
ทั้งยังมีการหารือเรื่องการประสานงานในการเคลื่อนไหว การจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลางเพื่อสนับสนุนการเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้ลงตัวด้วย
นอกจากนี้มีการหารือกันเรื่องการจัดฝึกอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) ซึ่งแต่ละกลุ่มในแต่ละจังหวัดเคยรับสมัคร และบางส่วนเดินทางไปทำการฝึกอบรมที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่มีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ประธาน อพปช.เป็นแกนนำฝึกอบรมมาแล้วเมื่อวันที่ 20-22 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยในส่วนของ จ.พะเยา ส่งคนไปฝึกประมาณ 120 คน แต่ จ.เชียงราย แม้มีการรับสมัครกันอย่างเอิกเกริก แต่ท้ายที่สุดมีคนไปร่วมฝึกเพียงประมาณ 45 คนเท่านั้น