“ระยอง” หวั่นปีนี้มีผลผลิตมาก ปัญหาราคาตกต่ำ

ระยอง - จังหวัดระยอง ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการตลาดกลางและผลผลิตทางการเกษตรจังหวัด หวั่นปีนี้มีผลผลิตมาก ปัญหาราคาตกต่ำ ส่งออกไม่น่ามีปัญหา

วันนี้ (24 เม.ย.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง นายนิวัฒน์ พ้นชั่ว ประธานกรรมการคณะกรรมการบริหารจัดการตลาดกลางและผลผลิตทางการเกษตรจังหวัดระยอง เป็นประธานการประชุม โดยมีนายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง นายสายหยุด อาบสุวรรณ เกษตรจังหวัด นายคัมภีร์ ศรีสุนทร รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภา อบจ. และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

นายนิวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาผลไม้ตกต่ำ เงินของโครงการช่วยเหลือเกษตรกรคาดว่าน่าจะยังไม่มา เกษตรกรต้องช่วยเหลือตัวเองกันไปก่อน และคงมีการกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพราะ อบจ.ยังไม่ได้สนับสนุนงบประมาณลงมา แต่ได้มีการช่วยเหลือ เช่น ตะกร้า กล่องบรรจุ พัสดุภัณฑ์ ถ้าชาวสวนผลไม้สามารถปรับปรุงคุณภาพเพื่อส่งออกได้ รับรองว่าผลไม้มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด แต่เรื่องการส่งออกต้องดูสถานการณ์ราวต้นเดือนหน้า ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ถึงวันที่ 10 มิถุนายน

ด้านนายสายหยุด กล่าวว่า ปีนี้ผลไม้มีประมาณ 111,000 ตัน ทุกประเภทมีมากช่วงของเดือนพฤษภาคม ถึงมิถุนายน ปัญหามีอยู่ 2 ลักษณะ คือ เงาะเกินความต้องการประมาณ 2 พันตัน ทุเรียน 6 พันตัน รวมประมาณ 8 พันตัน แต่ผทุเรียนจะไม่มีปัญหาซึ่งการส่งออก จะมีปัญหาในส่วนของมังคุด คือ เรื่องคุณภาพ ผิวลาย ตกขนาด ปัญหานี้ต้องช่วยเหลือเกษตรกร

ซึ่งมีการเจรจาซื้อขายระหว่างจังหวัดกับจังหวัด เพื่อระบายออกไปภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทางออกขที่ดีที่สุด อีกทางคือ สหกรณ์การเกษตร ที่จะมีผลผลิตผ่องถ่ายไปสหกรณ์ต่างจังหวัดที่เป็นคู่ค้ากัน ขณะเดียวกัน สำนักงานเกษตรจังหวัด ได้ประสานโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการซื้อผลผลิต หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่อยู่ในจังหวัด นำออกไปจำหน่ายให้ในช่วงไหน ประมาณเท่าไรซึ่งกำลังสำรวจอยู่

นายณรงค์ เอี่ยมพิทักษ์ ประธานกรรมการบริษัท แอลเค ยูนิตี้ จำกัด ผู้จำหน่ายผลไม้ส่งออกต่างประเทศ กล่าวว่า บริษัทไม่มีปัญหาการส่งออก แต่น่าจะมีปัญหาที่ตลาดในประเทศมากกว่า เพราะหลายองค์กร และส่วนราชการต้องช่วยกระจายออกสู่ตลาดต่างจังหวัด ที่ผ่านมา อบจ.ได้ผลักดันไปกว่า 300-400 ตัน

“ปัญหาของระยอง คือ ผลไม้ล้นตลาดซึ่งมีมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา จึงอยากให้หน่วยงานราชการเข้ามาดูแลเให้มากขึ้น เพราะคาดว่าผลผลิตปีนี้มีจำนวนมากแน่นอน”