กาญจนบุรี - ป.ป.ส.พร้อมตำรวจกาญจนบุรี นำกำลังพร้อมหมายค้น และหมายจับบุกตะครุบ “เจ๊แจ้” แก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่เครือข่าย “เจ๊เพ็ญ ท่าขึ้เหล็ก” พี่สาว “โอ เขาบิน” พร้อมยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (23 เม.ย.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.จรินทร์ พัฒนไพรสาณฑ์ รอง ผบภ.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค นำกำลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 กว่า 50 นาย ประชุมวางแผนที่สถานที่ราชการแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
คลิกเพื่อชมคลิป
ขณะกำลังประชุมวางแผนเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ขณะนี้ น.ส.รจนา หรือแจ้ พงษ์ศักดิ์ขจร อายุ 32 ผู้ต้องหาตามหมายจับยังอาศัยอยู่ที่บ้านพักตามปกติ หลังจากคณะเจ้าหน้าที่ทราบจึงรีบเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 97/3 หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านเป้าหมายที่ถูกยึดทรัพย์ที่ผู้ต้องหาอาศัยอยู่
เมื่อไปถึงพบบ้านหลังหลังดังกล่าวก่อสร้างทรงสเปน สูง 2 ชั้น ตั้งตระหง่านอยู่ริมถนนแสงชูโต สายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ เมื่อไปถึงพบ น.ส.รจนา หรือแจ้ ผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่ภายในบ้านเพียงลำพัง พล.ต.อ.พงศพัศ จึงแสดงหมายค้น และนำหมายจับออกมาให้ดู เมื่อ น.ส.รจนา เห็นถึงกับหน้าซีดตกใจ ขณะที่กองทัพสื่อมวลชนกำลังถ่ายภาพ น.ส.รจนา หรือแจ้ ได้นำกระดาษทิชชู มาปิดหน้าเอาไว้ และบอกไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีหมายจับ และกล่าวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาท่ามกลางเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนมามุงดูเป็นจำนวนมาก ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา หลังจาก พล.ต.อ.พงศพัศ อธิบายถึงเหตุผลที่ยึดทรัพย์จน น.ส.วรจนา เข้าใจ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำป้ายประกาศยึดทรัพย์ไปติดเอาไว้บริเวณระเบียงด้านหน้าชั้นที่ 2 ของตัวบ้าน
สำหรับทรัพย์สินที่ทางเจ้าหน้าที่นำป้ายมาติดประกาศยึดในครั้งนี้ ทั้งบ้าน และที่ดินรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดซึ่งอยู่ในเครือข่ายเดียวกันรวม 5 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.หนึ่งฤทัย นวมอารีย์ อยู่บ้านเลขที่ 93/1 หมู่ 2 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 2.นางสมควร สุขธร อยู่บ้านเลขที่ 1/15 หมู่ 1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา 3.นายกิตติ ท้วมทอง อยู่บ้านเลขที่ 700/1 หมู่ 8 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 4.น.ช.โสรส หรือโอ พงษ์ศักดิ์ขจร ต้องขังอยู่ในเรือนจำเขาบิน 5.น.ส.ดวงใจ นวมอารีย์ ที่อยู่ 93/1 ม.2 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
โดยผู้ต้องหา 3 คนแรก ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2556 พร้อมของกลางยาไอซ์ ประมาณ 650 กรัม โดยทั้ง 3 พยายามลักลอบนำเข้าไปในเรือนจำกลางเขาบิน ตามคำสั่งซื้อของ นช.โสรส พงษ์ศักดิ์ขจร นักโทษยาเสพติดในเรือนจำเขาบิน ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.หนึ่งฤทัย (ผู้ต้องหาคนที่ 1) และเป็นน้องชายของ น.ส.รจนา หรือแจ้ โดยนายโสรส หรือโอ ถูกจับกุมในคดียาเสพติด เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 พร้อมพวกรวม 3 คน ของกลางยาบ้า 2,479 เม็ด ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และขณะอยู่ในเรือนจำก็ยังมีพฤติการณ์สั่งยาเสพติดโดยให้ญาติและผู้ใกล้ชิดลักลอบนำเข้ามาให้จนถูกจับกุมได้ในที่สุด
สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติกรรมลักลอบส่งยาเสพติดเข้ามาทางอำเภอพญา ประเทศพม่า ผ่านพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หลังจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายพร้อมยาบ้า และไอซ์ได้ก่อนหน้านี้ 5 คน พบยาบ้าในพื้นที่ประทับตัวอักษร R มีส่วนประกอบแอมเฟตามีนสูงถึงร้อยละ 30 ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเครือข่ายของนางสุชาดา ทวยภา หรือเจ๊เพ็ญ เจ้าแม่ยาบ้าท่าขี้เหล็ก ฝั่งพม่า (ผู้สั่งการในคดี ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ ที่ถูกจับกุมในคดียาบ้า 1.28 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 5 กิโลกรัม เมื่อ 22 ตุลาคม 2555) โดยปัจจุบัน “เจ๊เพ็ญ” อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับของ สภ.งาว จ.ลำปาง โดยไปอาศัยอยู่ฝั่งท่าขี้เหล็กของประเทศพม่า และยังคงลักลอบส่งยาเสพติดเข้ามาทางภาคตะวันตกของไทยโดยผ่านกลุ่มกะเหรี่ยงอย่างต่อเนื่อง
ส่วน น.ส.รจนา พงษ์ศักดิ์ขจร ผู้ต้องหารายล่าสุด (คนที่ 6) ที่ถูกจับกุมได้ในที่เกิดเหตุ เป็นการจับตามอนุมัติของเลขาธิการ ป.ป.ส.ในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มีโทษเท่าตัวการ โดยในคดีนี้มีระวางโทษสูงสุดประหารชีวิต
และจากการส่งตัวอย่างยาบ้าที่จับกุมได้ในพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศ ทั้ง จ.กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และ จ.สุพรรณบุรี ส่งให้สถาบันตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.ทำการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด พบว่า นอกจากจะเป็นยาบ้าซึ่งเม็ดยามีสีส้ม และมีตราประทับ WY เหมือนกับยาบ้าโดยทั่วไปที่มาจากกลุ่ม พ.ท.ยี่เซแล้ว ยังพบยาบ้าชนิดใหม่ ที่มีลักษณะเป็นเม็ดสีเขียว และส้ม ประทับตราตัวอักษร R ขนาดใหญ่ และมีองค์ประกอบทางเคมีที่ต่างออกไป โดยมีปริมาณเมทแอมเฟตามีน 29.07% ซึ่งสูงกว่าที่พบในยาบ้าจากพื้นที่อื่นๆ ซึ่งมีแอมเฟตามีนอยู่เพียง 15 และไม่เกิน 20%
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า “ยาบ้ากลุ่มที่มีอักษรตัว R ขนาดใหญ่ และมีปริมาณแอมเฟตามีนค่อนข้างสูงนั้น ทั้งหมดมีการแพร่ระบาดและถูกจับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เชื่อว่ามีแหล่งผลิตในพื้นที่อิทธิพลของชาวกะเหรี่ยงด้านตรงข้าม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของ “เจ๊เพ็ญ” ที่ในช่วงหลังได้มีการสั่งของ และส่งผ่านเข้ามาทางพื้นที่นี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยาบ้าตัวอักษร R และยาไอซ์
สำหรับผู้ต้องหาคนที่ 4 และ 5 เลขาธิการ ป.ป.ส. จึงได้อนุมัติให้จับกุมในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 เช่นเดียวกับ น.ส.รจนา ผู้ต้องหาคนที่ 6 ที่ถูกจับกุมได้ในที่เกิดเหตุในวันนี้
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ในการประชุม ป.ป.ส.อาเซียน ที่จะจัดขึ้นทีประเทศไทยในกลางเดือนพฤษภาคม จะมีการหยิบยกปัญหาแหล่งผลิตในประเทศพม่า ทั้งฝั่งท่าขี้เหล็ก และฝั่งพญาตองซู ในเขตอิทธิพลของกะเหรี่ยง รวมทั้งการนำเข้ายาเสพติดจากประเทศพม่า ผ่านเข้ามาตามแนวชายแดนไทย ทั้งทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก ทางด้านด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อหารือร่วมกันในการดำเนินการ ทั้งการทำลายแหล่งผลิต และการสกัดกั้น
“ซึ่งกลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด โดยจะเชิงญเลขาธิการ ป.ป.ส.ของประเทศจีนเข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจากกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของยาบ้า และไอซ์อยู่ในขณะนี้”