สุรินทร์ - เมียพาลูกพร้อมญาติบุกร้องขอความเป็นธรรมต่อ “ผู้ว่าฯ-ผู้การตำรวจสุรินทร์” เร่งสะสางคดีสามีถูกฆาตกรรมโหดเลือดเย็น เผยถูกทุบตีจับกรอกยาพิษก่อนขับรถพุ่งตกร่องน้ำข้างถนน หวังอำพรางคดีเป็นอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ ขณะคดียังไม่คืบ ครอบครัวอยู่อย่างหวาดผวา
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นางนันทิดา แก้วทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.3 บ.ดงยาง ต.หนองเรือ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ พร้อมลูกชายวัย 14 ปี และ 11 ขวบ และญาติพี่น้องกว่า 10 คน เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และศูนย์ดำรงธรรม จ.สุรินทร์ รวมทั้ง พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สุรินทร์ กรณี นายวิเชียร แก้วทอง ผู้เป็นสามี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 3 บ.ดงยาง ต.หนองเรือ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ถูกฆาตกรรมเสียชีวิต และคดีไม่มีความคืบหน้า
นางนันทิดา แก้วทอง ภรรยาผู้ตายเปิดเผยว่า เกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ แบบแค็บ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บน 356 ปราจีนบุรี เพื่อเดินทางกลับบ้านหลังเดินสายเก็บเงินค่าสินค้าเบ็ดเตล็ดในพื้นที่ จ.ขอนแก่น นครพนม กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด ระหว่างทางได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ดักทำร้ายที่บริเวณเส้นทางระหว่างบ้านโนนตาลหนามแพ่ง กับบ้านตาเฮอ ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี โดยในช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. สามีได้โทรศัพท์มาบอกครอบครัวว่า กำลังจะเดินทางกลับบ้าน แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง จึงได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านว่าสามีถูกทำร้าย รถยนต์ตกลงไปในร่องน้ำข้างถนน
ส่วนสามีนอนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ใกล้กับรถยนต์ และบอกแก่ชาวบ้านที่ไปเห็นคนแรกว่า ถูกบังคับให้กินยาพิษ และที่บริเวณท้ายทอยมีร่องรอยฟกช้ำจากการถูกทำร้ายด้วยของแข็ง และทราบว่า ยานพาหนะที่คนรายใช้เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน แต่ทะเบียนระบุจังหวัดยโสธร ส่วนทรัพย์สินยังอยู่ครบ
จากนั้นชาวบ้านได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ อปพร.ที่เข้าเวรประจำจุดใกล้จุดเกิดเหตุ ในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาสงกรานต์ทราบ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลชุมพลบุรี และต่อมาสามีได้เสียชีวิต ในวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางครอบครัวติดใจการเสียชีวิตจึงส่งศพให้แพทย์โรงพยาบาลสุรินทร์ผ่าชันสูตร โดยแพทย์ลงความเห็นระบุว่า ในกระเพาะอาหารมีสารพิษชนิดร้ายแรงตกค้างทำให้เสียชีวิตด้วย ซึ่งตนได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมพลบุรีแล้ว และอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด
“การที่ครอบครัวมายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ โหดร้ายทารุณไร้มนุษยธรรม จึงต้องการขอความเมตตาจากผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ ช่วยสั่งการให้ดำเนินการสบสวนหาตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ประกอบกับขณะนี้ครอบครัวต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา เพราะคนกระทำผิดยังลอยนวล” นางนันทิดา กล่าว
นางนันทิดา กล่าวต่อว่า ผู้ตายไม่เคยมีปัญหากับใคร แม้แต่เรื่องค้าขายเบ็ดเตล็ดก็ไม่มีปัญหา เป็นหัวหน้าครอบครัว และเสาหลักที่ต้องดูแลลูกชายอีก 2 คน และเชื่อว่าไม่ใช่การฆาตกรรมเพื่อชิงทรัพย์เพราะทรัพย์สินยังอยู่ครบ น่าจะเรื่องปัญหาส่วนตัวมากกว่า เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ตายเคยทะเลาะกับญาติพี่น้องขั้นรุนแรง ก่อนที่จะมาถูกฆาตกรรมอำพรางดังกล่าว และไม่เชื่อว่าจะเป็นอุบัติเหตุ แต่รถยนต์ของผู้ตายถูกขับลงไปข้างทางทำเหมือนเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ จากการตรวจของแพทย์ในร่างกายพบมียาพิษนั้นเป็นคนละชนิดกับยาฆ่าหญ้าที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นของผู้ตายที่ซื้อมาจากตลาดเอง ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเตรียมการมาเป็นอย่างดี
ขณะที่ นายศรี ศรีพุทธนันท์ รองหัวหน้าศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามนาเสพติด จ.สุรินทร์ ได้เป็นตัวแทนมารับหนังสือ ก่อนรับปากว่าจะส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ทราบเพื่อสั่งการให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปโดยเร็วที่สุด