บุรีรัมย์ - ภาวะภัยแล้งส่งผลเกิดเพลี้ยแป้งระบาดในไร่ฟักทองของเกษตรกรกว่า 30 ราย ใน 4 หมู่บ้าน จ.บุรีรัมย์ ผลผลิตเน่าเสียหายจำนวนมาก ซ้ำถูกพ่อค้ากดราคาจากกิโลกรัมละ 20 บาท เหลือเพียง 2 บาท ขณะเทศบาลรุดตรวจสอบความเสียหายรายงานเกษตรอำเภอ เพื่อตรวจสอบ และหาวิธีกำจัดเพลี้ยช่วยเหลือเกษตรกร
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพปัญหาภัยแล้งที่ยังคุกคามอย่างต่อเนื่องในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ทำให้เกิดเพลี้ยแป้งระบาดในไร่ฟักทองของเกษตรกร 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ.นากลาง ม.4 บ.มาบสมอ ม.5 บ.สว่างงิ้วงาม ม.8 และ บ.โคกเพชร ม.10 ต.หนองตาด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ทำให้ผลผลิตฟักทองของเกษตรกร กว่า 30 ราย เน่าเสียหายแล้วมากกว่า 50 ไร่ จากที่ปลูกไว้กว่า 100 ไร่ ส่วนที่เหลือมีสภาพแคระแกร็นไม่สมบูรณ์ ทำให้ราคาขายต่ำจากเดิมขายได้สูงถึงกิโลกรัมละ 15-20 บาท ขณะนี้เหลือเพียงกิโลกรัมละ 2-5 บาท
ส่งผลให้เกษตรกรเดือดร้อนหนัก ประสบปัญหาขาดทุนในการทำไร่ฟักทอง จากเดิมที่เคยมีรายได้เฉลี่ยรายละ 50,000-60,000 บาทต่อปี หลังจากประสบปัญหาเพลี้ยแป้งระบาด รายได้ลดลงเหลือเพียง 10,000-20,000 บาทเท่านั้น โดยเกษตรกรเชื่อว่าเพลี้ยแป้งที่ระบาดในไร่ฟักทองครั้งนี้เกิดจากภาวะภัยแล้ง และสภาพอากาศที่ร้อนจัด ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทั้งนี้ หลังจากเกษตรกรได้แจ้งไปยังเทศบาลตำบลหนองตาด เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เข้าไปสำรวจไร่ฟักทองที่ถูกเพลี้ยระบาดเพื่อรายงานทางเกษตรอำเภอเข้าไปตรวจสอบ และหาแนวทางกำจัดเพลี้ยแป้งที่กำลังระบาดหนักในไร่ฟักทองอยู่ในขณะนี้ พร้อมพิจารณาชดเชยค่าความเสียหายให้แก่เกษตรกรทั้ง 4 หมู่บ้าน ให้คลายความเดือดร้อนดังกล่าวด้วย
นายบุญทัน แสงดี อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านนากลาง บอกว่า ได้ปลูกฟักทอง จำนวน 3 ไร่ ปีนี้ประสบปัญหาภัยแล้งทำให้เกิดเพลี้ยแป้งระบาดกัดกินใบ และเจาะผลฟักทอง ให้เน่าเสียหายเกือบทั้งหมด จากกรณีดังกล่าวทำให้พ่อค้าคนกลางกดราคาซื้อขายเหลือเพียงกิโลกรัมละ 2 บาท จึงไม่ขายให้แก่พ่อค้าคนกลาง แต่ได้นำผลผลิตใส่รถไปตระเวนขายตามหมู่บ้านในราคากิโลกรัมละ 7 บาท เพื่อให้ขาดทุนน้อยลง ส่งผลให้ปีนี้มีรายได้เพียง 10,000-20,000 บาทเท่านั้น จากปกติมีรายได้ถึง 60,000 บาท