อุบลราชธานี - เยาวชนชาวลาว ร่วมกับเพื่อนคนไทย รับจ้างขับรถขนไม้พะยูงจากอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ชนด่านตำรวจอุบลราชธานี หวังนำไม้ไปส่งลงเรือข้ามแม่น้ำโขง ถูกเจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงสกัดถูกยางแบนหนีไม่รอด ถูกจับได้พร้อมไม้ของกลางประมาณ 2 ล้านบาท ส่วนรถขนไม้พบมีชื่อตำรวจภาคใต้เป็นคนครอบครอง จะได้เรียกมาถามมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.ต.พิพัฒน์ โคตรภิสาร รองสารวัตรจราจร สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ตั้งด่านสกัดที่ถนนเลี่ยงเมืองวารินชำราบ-พิบูลมังสาหาร พบรถอีซูซุแวน สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน พท 3766 กรุงเทพมหานคร แล่นมาลักษณะบรรทุกของหนัก จึงเรียกหยุดตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวได้ขับพุ่งชนแผงเหล็กกั้นด่านตรวจก่อนเร่งเครื่องขับหลบหนี
จึงนำรถตราโล่ของเจ้าหน้าที่ขับไล่ตาม พร้อมวิทยุแจ้งให้ด่านใกล้เคียงช่วยกันสกัดจับ และขณะเจ้าหน้าที่พยายามนำรถขึ้นประกบข้าง คนขับรถไม้ได้ขับรถเบียดหวังให้รถเจ้าหน้าที่ตกถนน ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนด้านหน้าได้รับความเสียหาย แต่ยังสามารถแล่นติดตามไปถึงเขตบ้านเกษตรพัฒนา ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ จึงตัดสินใจใช้ปืนยิงไปที่ล้อรถของคนร้ายจนยางแบน และคนร้ายเป็นชาย 2 คน ได้ทิ้งรถวิ่งหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้าน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ล้อมจับตัวคนร้ายไว้ได้ 1 คน ทราบชื่อว่าท้าวอ๊อด (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ราษฎรลาวจากเมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว รับสารภาพร่วมกับเพื่อนที่เป็นคนไทยชื่อนายจ่อย ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอเขมราฐ รับจ้างขับรถขนไม้พะยูงยาวท่อนละ 2 เมตร จำนวน 21 ท่อน มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท จากอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อำเภอนาจะหลวย ไปลงเรือข้ามแม่น้ำโขงไปประเทศลาวในราคา 5 หมื่นบาท
แต่พบด่าน และถูกเจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงยางรถจึงแยกย้ายหลบหนี แต่ตนไม่ชำนาญทางทำให้ถูกจับได้ จึงตั้งข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนีต่อสู้ขัดขวางการจับกุม และมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
และจากการตรวจสอบพบเอกสารใช้โอนลอยทะเบียนรถ ซึ่งเป็นรถของนายดาบตำรวจคนหนึ่งในจังหวัดภาคใต้ จะได้เรียกเจ้าของรถมาสอบสวนมีส่วนรู้เห็นกับการขนไม้พะยูงด้วยหรือไม่