กาฬสินธุ์ - ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ยืดอกรับผิด เหตุตำรวจจราจร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จับ-ปล่อย รถจักรยานยนต์ทิ้งข้างทาง ระบุเป็นการออกใบตรวจยึดรถเพื่อตรวจสอบหลักฐาน ย้ำไม่ใช่ใบสั่งผี แต่เป็นความประมาทของร้อยเวรจราจรที่ทิ้งรถไว้ โชคดีไม่หาย พร้อมเดินหน้าแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้เรียก พ.ต.ท.ไทรัฐ สมฤทธิ์ รอง ผกก.จร.สภ.เมืองกาฬสินธุ์, พ.ต.ต.อภิสัณห์ ทองหมู่ สว.จร.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เข้ามาสอบถาม กรณีนายภาคภูมิ นิ่มกลาง พนักงานบริษัทเจมส์ทีวี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ตรงถนนสายกาฬสินธุ์ไปอำเภอกมลาไสย ซึ่งตำรวจได้ยึดรถและออกใบสั่ง
ภายหลังจากที่นายภาคภูมิได้นำใบสั่งไปจ่ายค่าปรับกับตำรวจจราจรกลับไม่พบรถจักรยานยนต์ของตนเอง แต่รถถูกทิ้งไว้บริเวณจุดตรวจในสภาพเสียบกุญแจไว้ และภายหลังตำรวจจราจรได้เข้ามาขอใบสั่งคืนพร้อมถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานว่าได้ส่งมอบรถจักรยานยนต์คืนให้แล้ว จนทำให้ประชาชนสงสัยถึงความรับผิดชอบของตำรวจจราจรและมองไปถึงการออกใบสั่งว่าเป็นใบสั่งผีหรือไม่ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 57 ช่วงเทศกาลสงกรานต์
พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีนี้ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาได้เรียกชุดปฏิบัติงานและหัวหน้าหน่วย ตั้งแต่สารวัตรจราจร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และรอง ผกก.จร.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เข้ามาสอบถาม เรื่องนี้ตำรวจไม่ขอแก้ตัวและยอมรับผิดในความผิดพลาด โดยเฉพาะการปล่อยรถทิ้งไว้ข้างทางภายหลังจากตรวจยึด เพราะชุดจับกุมคิดว่าผู้ถูกจับกุมได้ไปจ่ายค่าปรับแล้วได้เข้ามาเอารถไปแล้ว เพราะในวันนั้นได้กวดขันตาม พ.ร.บ.จราจร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในหน้าเทศกาลสงกรานต์
การที่สงสัยว่าเป็นการออกใบสั่งผีจึงไม่เป็นความจริง เพราะนั่นไม่ใช่ใบสั่ง แต่เป็นใบตรวจยึดรถเพื่อรอตรวจสอบ เพราะรถที่ถูกจับนั้นเป็นรถที่ไม่มีหลักฐานใดแสดง แต่เมื่อสอบถามทั้งหมด เหตุของเรื่องเกิดจากความประมาทของร้อยเวรฯ ที่ควบคุมด่านตรวจ ซึ่งควรที่จะดูแลรถที่ตรวจยึด เพราะหากตกหล่นไม่มีคนมารับรถจะต้องนำรถกลับมาเพื่อเตรียมให้ประชาชนได้เข้ามาจ่ายค่าปรับหรือตรวจสอบหลักฐาน
ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์กล่าวต่อว่า กรณีนี้จึงเป็นการออกใบตรวจยึดรถเพื่อตรวจสอบหลักฐาน ยืนยันว่าไม่ใช่ใบสั่งผีแน่นอน และเป็นความประมาทของร้อยเวรจราจรที่ทิ้งรถไว้ โชคดีไม่หาย ซึ่งต่อไปจะกำชับให้ตำรวจจราจรเพิ่มความรัดกุมให้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องมารยาทในการเรียกตรวจเพราะถือเป็นงานบริการประชาชน ซึ่งจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีกแน่นอน