ประจวบคีรีขันธ์ - สงกรานต์ประจวบคีรีขันธ์ รวม 3 วัน ตาย 4 ศพ รองผู้ว่าฯ สั่งเข้มงวดตรวจตราถนนสายรอง สวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง และห้ามเมาแล้วขับโดยเด็ดขาด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 เม.ย.) น.ส.ณุวรรณา อนันตกิจไพศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามประเมินสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนประจำวัน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2557 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ห้องหว้ากอ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
น.ส.ณุวรรณา อนันตกิจไพศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สรุปการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2557 ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย.เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น จำนวน 32 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย มีผู้บาดเจ็บ 36 ราย เป็นชาย 27 ราย หญิง 9 ราย
สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่คือ เมาสุรา ไม่สวมหมวกนิรภัย และขับรถเร็วเกินกำหนด ส่วนประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ รถจักรยานยนต์ ถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ ถนนทางหลวง จุดเกิดเหตุที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ ทางตรง
ทั้งนี้ ประธานในที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจตรา และตั้งจุดตรวจบนถนนสายรองเป็นพิเศษ เนื่องจากยังไม่ใช่วันเดินทางกลับของประชาชน อาจมีการดื่มฉลองกันภายในบ้านพัก โดยให้ตรวจตราร้านค้าภายในหมู่บ้าน และตั้งด่านตรวจในถนนสายรอง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะมาตรการบังคับใช้กฎหมายเมาแล้วขับ สวมหมวกนิรภัย 100% ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่ง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (14 เม.ย.) น.ส.ณุวรรณา อนันตกิจไพศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามประเมินสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนประจำวัน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2557 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ห้องหว้ากอ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
น.ส.ณุวรรณา อนันตกิจไพศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สรุปการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2557 ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย.เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น จำนวน 32 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย มีผู้บาดเจ็บ 36 ราย เป็นชาย 27 ราย หญิง 9 ราย
สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่คือ เมาสุรา ไม่สวมหมวกนิรภัย และขับรถเร็วเกินกำหนด ส่วนประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ รถจักรยานยนต์ ถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ ถนนทางหลวง จุดเกิดเหตุที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ ทางตรง
ทั้งนี้ ประธานในที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจตรา และตั้งจุดตรวจบนถนนสายรองเป็นพิเศษ เนื่องจากยังไม่ใช่วันเดินทางกลับของประชาชน อาจมีการดื่มฉลองกันภายในบ้านพัก โดยให้ตรวจตราร้านค้าภายในหมู่บ้าน และตั้งด่านตรวจในถนนสายรอง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะมาตรการบังคับใช้กฎหมายเมาแล้วขับ สวมหมวกนิรภัย 100% ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่ง
