xs
xsm
sm
md
lg

นอภ.สามชุก ติดป้ายประกาศต่อสู้ทรราชย์โกงชาติ แยกประเทศ ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - นายอำเภอสามชุก จ.สุพรรณบุรี ติดป้ายหน้าบ้านพักประกาศยืนหยัดต่อสู้กับทรราชย์โกงชาติ คนแยกประเทศ และคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้าน ผกก.ตำหนิลูกน้องระแวงนักข่าวเกินเหตุ

จากกรณีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธยิงถล่มบ้านพักเลขที่ 33 ริมถนนสุพรรณบุรี-บางบัวทอง หมู่ 3 ต.ย่านยาว อ.สามชุก ของนายสมโภช โชติชูช่วง นายอำเภอสามชุก ทำให้บ้านพัก และรถยนต์ประจำตำแหน่งได้รับความเสียหาย เหตุเกิดคืนวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา สาเหตุคาดว่ามาจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่นายสมโภช สวมเครื่องแบบขึ้นเวที กปปส. คืนวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด วันนี้ (11 เม.ย.) นายสมโภช ได้นำป้ายกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ติดไว้ที่กำแพงบ้านพักข้อความว่า “บ้านพัก และรถยนต์ประจำตำแหน่งนายอำเภอ เป็นทรัพย์สินของทางราชการ สร้างด้วยภาษีประชาชน ผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงทำลาย เพราะต้องการข่มขู่ให้นายอำเภอสามชุกกลัว เลิกล้มต่อสู้กับทรราชย์โกงชาติ แยกประเทศ และคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษตริย์ อย่าได้ทำอีกเลย ผมไม่กลัว และผมไม่หยุดต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศชาติ ราชบัลลังก์ และผลประโยชน์ของประชาชนแน่นอนครับ” ลงชื่อ ฎนายสมโภช โชติชูช่วง นายอำเภอสามชุก

ข่าวแจ้งว่า ก่อนที่สื่อมวลชนจะบันทึกภาพป้าย และบริเวณหน้าบ้านพัก ได้ขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ที่เข้าเวรอยู่ ซึ่งก็อนุญาตให้ถ่ายภาพได้ ขณะกำลังถ่ายภาพมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.สามชุก 1 นาย ยศร้อยตำรวตรี ขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาจอดประกบรถผู้สื่อข่าว พร้อมตะโกนเรียกผู้สื่อข่าวเพื่อขอดูบัตรประจำตัว และบัตรต้นสังกัด โดยบอกว่าขอดูบัตรหน่อยว่าเป็นนักข่าวจริงหรือนักข่าวปลอม ทั้งยังได้พูดจาไม่สุภาพ ท่าทางที่ขึงขัง จากนั้นใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพผู้สื่อข่าวเอาไว้ โดยอ้างว่าจะนำไปรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจต่อพฤติกรรมของนายตำรวจคนดังกล่าว จึงตัดสินใจแจ้งไปยัง พ.ต.อ.เสกสรรค์ นิ่มนวล ผกก.สภ.สามชุก พร้อมทั้งสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี

พ.ต.อ.เสกสรรค์ กล่าวว่า ว่าที่ ร.ต.สุพีพัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัด และ พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว. สั่งกำชับให้ตนและตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก และหลังเกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาได้สั่งกำชับให้ส่งตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ และสายตรวจรถยนต์ ผลัดเปลี่ยนกันดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะผลัดเปลี่ยนกำลังทุก 1 ชั่วโมง

สำหรับเรื่องนายตำรวจขอตรวจบัตรสื่อมวลชน และถ่ายภาพเอาไว้นั้น โดยส่วนตัวแล้วตนมองว่าไม่เหมาะสม เพราะนักข่าวที่ไปทำข่าวต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นเวลากลางวัน และเจ้าหน้าที่ อส.ที่เข้าเวรก็อยู่ ซึ่งตนจะเรียกนายตำรวจคนดังกล่าวมาพูดคุยเพื่อว่ากล่าวตักเตือน และจะสอบถามว่าทำไมมาสงสัยว่าใครเป็นนักข่าวจริงหรือนักข่าวปลอมตอนนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น