อุทัยธานี - เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 4 ห้อง กลางเมืองอุทัยธานี ระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ใช้เวลาเกือบ 2 ชม.จึงสกัดเพลิงไว้ได้ แต่เพลิงเผาวอดเสียหายทั้งหมด มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการหนีตาย 2 ราย เป็นแม่ลูก มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานีได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์กลางเมืองอุทัยธานี ถนนเติบศิริ ตำบลอุทัยใหม่ เขตเทศบาลเทศบาลเมืองอุทัยธานี ใกล้กับสถานีขนส่งผู้โดยสารอุทัยธานี และตลาดเกษตรกร จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงกว่า 10 คันจากเทศบาลเมืองอุทัยธานี และเทศบาลตำบล อบต.ใกล้เคียงระดมกันเข้าดับเพลิงอย่างเร่งด่วน
โดยมีนายวันชัย โอสุคนทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นายบุญเลิศ พรหมจิรโชติ และนายเสถียรพงศ์ มากศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี เข้าร่วมตรวจสอบสถานการณ์และร่วมอำนวยการดับเพลิงในครั้งนี้ด้วย
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 4 ห้อง ชื่ออาคารนุ๊ยปรี เชษฐศิลป์ พ.ศ. 2549 เป็นอาคารให้เช่าของนายศิลชัย เชษฐศิลป์ อดีต ส.ส.และ ส.ว.อุทัยธานี พี่ชายของนายเผด็จ นุ๊ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุทัยธานี
โดยต้นเพลิงมาจากห้องเลขที่ 76/47 ลุกลามไปทั้ง 4 ห้อง มีนายวินัย บัวเผื่อน อายุ 53 ปี เป็นผู้เช่าทั้ง 4 ห้องเปิดเป็นร้านขายของเบ็ดเตล็ดหลายอย่าง เช่น รองเท้า กระเป๋า ที่นอน และแผ่นซีดี จึงเป็นเชื้อไฟอย่างดีลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมเร่งช่วยกันดับไฟและสกัดไฟไม่ให้ลุกลามไปยังตึกข้างเคียงอีกจำนวนมาก
โดยใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ก็ทำให้อาคารถูกเผาวอดเสียหายทั้ง 4 ห้อง ข้าวของต่างๆ ภายในร้านถูกเผาเสียหายทั้งหมดรวมทั้งทรัพย์สินอีกหลายรายการ มูลค่าหลายล้านบาท
โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายจากการหนีไฟไหม้ ทราบชื่อคือนางปุญนุช บัวเผื่อน อายุ 47 ปี ภรรยานายวินัย ถูกไฟลวก และบุตรชาย อายุ 13 ปี ขาหักจากการกระโดดหนีไฟจากชั้น 2 ลงมา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอุทัยธานีและต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการปลอดภัยแล้ว
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีนางปุญนุช และบุตรชายพักอยู่ที่เกิดเหตุไฟไหม้ ส่วนนายวินัยไปพักที่บ้านอีกแห่งหนึ่ง ระหว่างเกิดเหตุแม่ลูกหนีตายจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ดังกล่าวได้เกิดประกายไฟจากหม้อแปลงไฟใกล้เคียงและวิ่งมาตามสายไฟเกิดประกายตกลงมาไหม้ผ้าบังแดดของอาคารและไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วซึ่งสิ่งของภายในบ้านเป็นเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบรายละเอียดที่แน่ชัดอีกครั้ง
และสาเหตุที่ดับเพลิงไม่ทันเป็นเพราะต้องระดมรถดับเพลิงมาจากหลายแห่งซึ่งอยู่ห่างกัน เพราะว่าไม่สามารถดึงน้ำจากระบบประปาซึ่งมีท่อประปาสำหรับต่อไว้ดับเพลิงได้ เนื่องจากเป็นความมักง่ายและเห็นแก่ตัวของเจ้าของที่เช่าบ้านเกิดเหตุนำแผ่นเหล็กมาอ๊อกติดปิดวาล์วน้ำให้เป็นพื้นเดียวกับทางเดินเท้าหน้าร้าน จึงไม่สามารถเปิดวาล์วน้ำดึงน้ำไปดับเพลิงได้
