ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าฯ ระยอง เร่งนายอำเภอบ้านฉาง สั่งระงับการขุดทรายถนนสาย 3376-เขาภูดร ต.บ้านฉาง หลังพบไม่มีใบอนุญาต พร้อมจี้ ตร.และ จนท.อุตสาหกรรมปฏิบัติตามกฎหมายต่อผู้ทำผิดอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชาวบ้านหมู่ 7 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า บริษัทแห่งหนึ่งเข้ามาทำเหมืองทราย และใช้รถแบ็กโฮขุดทรายใส่รถบรรทุกวิ่งเข้า-ออก ถนนสาย 3376-เขาภูดร ทั้งกลางวัน และกลางคืน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมถนน อีกทั้งเหมืองทรายยังอยู่ติดคลองห้วยมะหาด และอยู่หลังศูนย์ประสานงานการเรียนรู้ชุมชน มูลนิธิสถาบันพัฒนาทรัพยากรชุมชน
นอกจากนั้น ยังพบว่าผู้ประกอบการเหมืองทรายแห่งนี้ ได้กักเก็บน้ำในคลองห้วยมะหาด ไว้ใช้ในกิจการของตัวเอง และยังได้ปล่อยน้ำจากการล้างทรายในลักษณะดินโคลน ไหลลงมาตามคลองผ่านฝายน้ำล้นห้วยมะหาด ทำให้น้ำในคลองมีแต่ดินโคลนจนตื้นเขิน รวมทั้งยังมีสีขุ่นเป็นสนิม ปลาในคลองตายส่งกลิ่นเหม็นเน่า ชาวบ้านไม่สามารถนำน้ำในคลองมาใช้ได้
วันนี้ (5 เม.ย.) นายดุสิต รักษ์ทอง นายทวีป สุดแสวง และกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ นำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่ามีการใช้รถแบ็กโฮขุดทรายใส่รถบรรทุกวิ่งเข้าออกตามปกติ และก็ยังไม่มีหน่วยงานใด ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอบ้านฉาง นายกเทศมนตรีตำบลบ้านฉางตำรวจ สภ.บ้านฉาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เข้ามาดูแลแก้ปัญหา
โดยชาวบ้านหมู่ 7 ซึ่งมีที่ดินทำกินอยู่รอบเหมืองทราย ข้องใจว่าเหตุใดที่ดินของชาวบ้านกลับมีเอกสารสิทธิเพียงใบ ภบท.5 และ ส.ค.1 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ได้เคยขอออกเอกสารสิทธิต่อหน่วยงานราชการ แต่กลับถูกปฏิเสธมาโดยตลอด แต่พื้นที่ประกอบกิจการเหมืองทรายแห่งนี้กลับออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.ได้
นายทวีป กล่าวว่า พื้นที่เขตเขาภูดร หมู่ 7 ต.บ้านฉาง อยู่ในเขตป่าไม้ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกกฎกระทรวงตั้งแต่ พ.ศ.2507 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ให้ป่าเขาห้วยมะหาด ป่าเขานั่งยอง และป่าเขาครอก ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง และ ต.สำนักท้อน ต.บ้านฉาง ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ที่อยู่ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวงเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่ประมาณ 17,811 ไร่
โดยชาวบ้านที่เข้ามาทำมาหากินบริเวณนี้ตั้งแต่บรรพบุรุษ มีเพียงใบ ภบท.5 และ ส.ค.1 เท่านั้น และแม้ชาวบ้านจะเคยยื่นขอออกเอกสารสิทธิแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ทั้งยังได้รับคำชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้เพราะอยู่เขตป่าสงวนแห่งชาติ
“แต่ที่ดินเหมืองทรายแห่งนี้ก็อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเ ทำไมกลับออกเอกสารสิทธิได้ และยังมีอีกจำนวนมากที่อยู่บนเขา สามารถออกเอกสารสิทธิได้เช่นกัน เรื่องนี้ได้สร้างความข้องใจให้แก่ชาวบ้านที่มีที่ดินอยู่ด้านล่างในเรื่องการออกเอกสิทธิไม่ได้เป็นอย่างมาก”
นายดุสิต กล่าวว่า เหมืองทรายแห่งนี้มีข่าวว่ามีการออกเอกสารสิทธิเป็น น.ส.3 ก. แล้ว จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเหมืองทรายสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน อีกทั้งยังทำให้ชาวบ้านมีความรู้สึกว่าเป็นการเอาเปรียบ และที่ผ่านมา นายอำเภอก็ไม่เคยลงมาดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้าน เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้รับคำตอบว่าได้รับรายงานจากนายอินทรีย์ เกิดมณี นายอำเภอบ้านฉาง ทราบว่าเบื้องต้นได้มีการแสดงเอกสารสิทธิ โดยอ้างว่าผู้ประกอบการได้ขุดทรายในที่ดินของเขาเอง แต่การขุดทรายเกี่ยวข้องกับกฏหมาย 3-4 ฉบับ โดยต้องเป็นไปตามกฎกระทรวงมหาดไทย เรื่องการขออนุญาตขุดทราย และจากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการอนุญาต
ประการต่อมา การใช้เครื่องจักรกลเกินกว่าที่จะขุดทรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และประการที่ส 3 มีการขนทรายออกจากพื้นที่ และจากการตรวจสอบ พ.ร.บ.จราจร พบว่า ยังไม่มีการอนุญาตใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ผู้กระทำอ้างว่าอยู่ระหว่างดำเนินการที่จะขออนุญาตเท่านั้น
“ได้สั่งการให้นายอำเภอบ้านฉาง สั่งระงับการขุดทรายไปแล้ว เพราะตามกฎหมายยังไม่ได้รับใบอนุญาตจะกระทำการใดๆ ไม่ได้ และหากว่าพบมีการกระทำไปก่อนได้รับใบอนุญาต ถือว่าเป็นการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งได้กำชับให้นายอำเภอทุกท้องที่ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องรับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบกรณีลักลอบการขุดทรายโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยเช่นกัน”