กาญจนบุรี - พายุฤดูร้อนมาทั้งฝน และลมพัดหลังคาบ้านเรือนชาวด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี เสียหายกว่า 100 หลัง ไฟฟ้าดับทั้งอำเภอ
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา นายชาญ เสมสวัสดิ์ นายอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดพายุพัดบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา โดยพายุดังกล่าวมีทั้งฝน และกระแสลมที่แรง ทำให้บ้านเรือยพังเสียหายไปจำนวนมาก
นอกจากนี้ ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ตามริมถนนได้หักโค่นเกี่ยวสายไฟขาดเสียหายหลายจุด และส่วนใหญ่จะเป็นสายเมนที่จ่ายกระแสไฟคลุมเกือบทุกพื้นที่ของอำเภอด่านมะขามเตี้ย ส่งผลทำให้บ้านเรือนประชาชนทุกหลังในเขตเทศบาลตำบลด่านมะขามเตี้ย ไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านต้องใช้เทียน และไฟฉายเพื่อส่องแสงสว่างเป็นการชั่วคราว ขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอด่านมะขามเตี้ยกำลังระดมกำลังกันแก้ไขปัญหากันอย่างเร่งด่วน เบื้องสามารถจ่ายกระแสไฟได้แล้วบางจุด
และจากการสำรวจความเสียหายบ้านเรือนราษฎรที่ถูกกระแสลมพัด เบื้องต้นมีประมาณ 143 หลังคาเรือน คลอบคลุมทั้งอำเภอด่านมะขามเตี้ย แต่มีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดเพียงแค่ 2 หลังคาเรือน ซึ่งเจ้าของบ้านได้ไปอาศัยบ้านญาติพักพิงชั่วคราว
สำหรับตัวเลขความเสียหายจะต้องรอไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะสามารถสำรวจได้ว่า ตำบลไหน หรือหมู่บ้านอะไรได้รับผลกระทบจากพายุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถสำรวจได้ เนื่องจากบางหมู่บ้านอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ประกอบกับท้องฟ้ามืดสนิท ทำให้การสำรวจเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งตนได้ประสานไปยังผู้นำท้องถิ่นทุกท้องที่ให้คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนทุกครัวเรือนเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้าไปก่อน และในพรุ่งนี้เช้า ตนและเจ้าหน้าที่จะเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อรายงานให้จังหวัดกาญจนบุรี ทราบอย่างเร่งด่วนต่อไป
ด้านนายศักดิ์ดา แก้วทิมา หัวหน้าแผนกก่อสร้างและปฏิบัติการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอด่านมะขามเตี้ย กล่าวว่า หลังจากเกิดพายุฤดูร้อนขึ้นในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย โดยหลังจากพายุเข้าไม่ถึง 10 นาที การไฟฟ้าก็ได้รับแจ้งว่าเกิดไฟฟ้าดับขึ้นในหลายพื้นที่หลายหมู่บ้าน ซึ่งเราได้กระจายเจ้าหน้าที่ออกไปแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และบางจุดที่ไฟฟ้าดับสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่มีบางจุดที่พบอุปสรรค คือ มีกิ่งไม้ขนาดใหญ่ล้มทับสายไฟแรงสูงจนขาด ซึ่งยากต่อการแก้ไขพอสมควร แต่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าของเราได้พยายามเร่งช่วยเหลือชาวบ้านทุกหมู่บ้านอย่างเต็มกำลัง และเชื่อว่าภายในเที่ยงคืนจะสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา นายชาญ เสมสวัสดิ์ นายอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดพายุพัดบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา โดยพายุดังกล่าวมีทั้งฝน และกระแสลมที่แรง ทำให้บ้านเรือยพังเสียหายไปจำนวนมาก
นอกจากนี้ ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ตามริมถนนได้หักโค่นเกี่ยวสายไฟขาดเสียหายหลายจุด และส่วนใหญ่จะเป็นสายเมนที่จ่ายกระแสไฟคลุมเกือบทุกพื้นที่ของอำเภอด่านมะขามเตี้ย ส่งผลทำให้บ้านเรือนประชาชนทุกหลังในเขตเทศบาลตำบลด่านมะขามเตี้ย ไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านต้องใช้เทียน และไฟฉายเพื่อส่องแสงสว่างเป็นการชั่วคราว ขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอด่านมะขามเตี้ยกำลังระดมกำลังกันแก้ไขปัญหากันอย่างเร่งด่วน เบื้องสามารถจ่ายกระแสไฟได้แล้วบางจุด
และจากการสำรวจความเสียหายบ้านเรือนราษฎรที่ถูกกระแสลมพัด เบื้องต้นมีประมาณ 143 หลังคาเรือน คลอบคลุมทั้งอำเภอด่านมะขามเตี้ย แต่มีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดเพียงแค่ 2 หลังคาเรือน ซึ่งเจ้าของบ้านได้ไปอาศัยบ้านญาติพักพิงชั่วคราว
สำหรับตัวเลขความเสียหายจะต้องรอไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะสามารถสำรวจได้ว่า ตำบลไหน หรือหมู่บ้านอะไรได้รับผลกระทบจากพายุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถสำรวจได้ เนื่องจากบางหมู่บ้านอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ประกอบกับท้องฟ้ามืดสนิท ทำให้การสำรวจเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งตนได้ประสานไปยังผู้นำท้องถิ่นทุกท้องที่ให้คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนทุกครัวเรือนเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้าไปก่อน และในพรุ่งนี้เช้า ตนและเจ้าหน้าที่จะเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อรายงานให้จังหวัดกาญจนบุรี ทราบอย่างเร่งด่วนต่อไป
ด้านนายศักดิ์ดา แก้วทิมา หัวหน้าแผนกก่อสร้างและปฏิบัติการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอด่านมะขามเตี้ย กล่าวว่า หลังจากเกิดพายุฤดูร้อนขึ้นในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย โดยหลังจากพายุเข้าไม่ถึง 10 นาที การไฟฟ้าก็ได้รับแจ้งว่าเกิดไฟฟ้าดับขึ้นในหลายพื้นที่หลายหมู่บ้าน ซึ่งเราได้กระจายเจ้าหน้าที่ออกไปแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และบางจุดที่ไฟฟ้าดับสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่มีบางจุดที่พบอุปสรรค คือ มีกิ่งไม้ขนาดใหญ่ล้มทับสายไฟแรงสูงจนขาด ซึ่งยากต่อการแก้ไขพอสมควร แต่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าของเราได้พยายามเร่งช่วยเหลือชาวบ้านทุกหมู่บ้านอย่างเต็มกำลัง และเชื่อว่าภายในเที่ยงคืนจะสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด