xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนากุ้งกาฬสินธุ์เลิกเลี้ยง เหตุพิษภัยแล้ง-ต้นทุนสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามใน ต.บัวบาน อ.ยางตลาด กำลังเร่งเก็บกุ้งส่งขายก่อนกำหนด เนื่องจากประสบภัยแล้งได้กระทบกับกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงกุ้งก้ามกราม ทำให้ผู้เลี้ยงกุ้งกว่าร้อยละ 70 ต้องเลิกกิจการ
กาฬสินธุ์ - ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม อ.ยางตลาดกว่าร้อยละ 70 เลิกเลี้ยงกุ้งก้ามกราม หลังประสบวิกฤตภัยแล้งติดต่อกัน 4 ปี ขณะราคากุ้งพุ่งสูงปากบ่อพุ่ง กก.ละ 350 บาท ชี้อนาคตกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ขาดตลาด เหตุภัยแล้ง-ราคาอาหารแพงเกินจริง

จากการติดตามปัญหาความแห้งแล้งที่ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดมีรายงานว่าได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามใน อ.ยางตลาด ทำให้ผู้เลี้ยงกุ้งกว่าร้อยละ 70 ต้องเลิกเลี้ยง ส่งผลให้ราคาจำหน่ายกุ้งก้ามกรามปากบ่อสูงถึงกิโลกรัมละ 350 บาท

นายสุปัน อินทร์แสง อายุ 48 ปี ชาวนากุ้ง ต.บัวบาน กล่าวว่า นากุ้งก้ามกรามในเขต อ.ยางตลาดกว่าร้อยละ 70 ต้องเลิกกิจการ เพราะที่ผ่านมาไม่มีโครงการรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ อีกทั้งหัวอาหารก็มีราคาแพงถึงกระสอบละ 700 บาท ประกอบกับความแห้งแล้งยาวนานถึง 4 ปี ชาวนากุ้งต้องขาดทุนจากสภาพอากาศที่ร้อน

โดยเฉพาะนากุ้งของตน 11 ไร่ต้องเลิกกิจการ และอีกเกือบทั้งอำเภอก็ต้องเลิกกิจการเช่นกัน ทั้งนี้ส่วนใหญ่จะทิ้งบ่อกุ้งอพยพไปขายแรงงานในช่วงฤดูแล้ง

ทั้งนี้ ในอนาคตกุ้งก้ามกรามในภาคอีสานจะขาดตลาด เนื่องจากกาฬสินธุ์เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงรายใหญ่เพราะมีระบบชลประทานเขื่อนลำปาว และจะทำให้ราคากุ้งก้ามกรามในช่วงเทศกาลสงกรานต์พุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 600-700 บาทก็เป็นได้

นายสุปันกล่าวว่า อีกปัญหาคือ เงินหมุนเวียนโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาลผลิตปี 2556/57 ซึ่งยังคงค้างชาวนากว่า 1,400 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดสภาพคล่อง หลายครอบครัวกำลังที่จะล่มสลายเพราะปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่มีวันสิ้นสุด

ทั้งภัยแล้งทั้งต้นทุนค่าอาหารสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาการจำหน่ายกุ้งก้ามกรามปากบ่อสูงถึงกิโลกรัมละ 350 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น