กาญจนบุรี - นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เตือนชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระให้ระวัง หลังมีผู้พบเห็นรอยเสือโคร่ง และซากสัตว์ป่าถูกกัดกิน พร้อมกำชับหากใครพบห้ามทำร้ายเสือเด็ดขาด และให้แจ้ง จนท.ทันที เพื่อหาแนวทางป้องกัน และอนุรักษ์ให้เสืออยู่ในป่าสลักพระตลอดไป หลังสูญหายไปกว่า 20 ปี
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (2 เม.ย.) นายศรัทธา คชพลายุทธ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องที่มีการพบเสือโคร่งคืนถิ่นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตนได้รับแจ้งข่าวจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านหลายคนในพื้นที่ต่อติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระว่า มีชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่าในพื้นที่เขตฯ สลักพระ พบรอยเท้าสัตว์ใหญ่ประเภทแมว แต่ชาวบ้านยังไม่มั่นใจว่าเป็นสัตว์อะไร
แต่ต่อมาได้มีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลวังด้ง อำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่เข้าไปท่องเที่ยวเดินป่าได้พบรอยเท้าเหมือนรอยเท้าเสือโคร่ง โดยพบใกล้กับซากสัตว์ที่ถูกกัดกินอยู่ห่างจากถนนสายกาญจนบุรี-เขื่อนศรีนครินทร์ เข้าไปเขตพื้นที่ป่าลึกประมาณ 10 กิโลเมตร
“เมื่อมีการแจ้งข่าวมายังอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อความไม่ประมาทจึงขอแจ้งเตือนไปยังชุมชนใกล้เขตฯ สลักพระ ให้ระมัดระวัง และตนได้กำชับไปด้วยว่า ห้ามทำร้ายเสือโดยเด็ดขาด และหากใครพบเห็นให้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน หรือเจ้าหน้าที่เขตฯ สลักพระ เพื่อร่วมกันหาแนวทางป้องกันเพื่อช่วยกันอนุรักษ์ให้เสือโคร่งให้คงอยู่ในป่าสลักพระตลอดไป” นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าว
นายศรัทธา กล่าวต่อว่า การที่มีเสือโคร่งเข้ามาอาศัยในเขตพื้นที่ป่าใดๆ ถือว่าเป็นข่าวดีมากสำหรับจังหวัดกาญจนบุรี เท่าที่สอบถามกำนัน ผู้ใหญ่บ้านต่างเล่าว่า ไม่มีชาวบ้านพบรอยเท้าเสือโคร่งมานานเกือบ 20 ปี ดังนั้น เพื่อให้เรื่องการพบรอยเท้าเสือโคร่งได้รับการตรวจสอบยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตนจะประสานงานให้เข้าตรวจสอบข้อมูลนี้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระอีกครั้งหนึ่ง และหากเป็นเรื่องจริงก็ต้องร่วมกับบูรณาการเพื่อร่วมกันอนุรักษ์ดูแลเสือโคร่งไว้ให้ได้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (2 เม.ย.) นายศรัทธา คชพลายุทธ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องที่มีการพบเสือโคร่งคืนถิ่นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตนได้รับแจ้งข่าวจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านหลายคนในพื้นที่ต่อติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระว่า มีชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่าในพื้นที่เขตฯ สลักพระ พบรอยเท้าสัตว์ใหญ่ประเภทแมว แต่ชาวบ้านยังไม่มั่นใจว่าเป็นสัตว์อะไร
แต่ต่อมาได้มีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลวังด้ง อำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่เข้าไปท่องเที่ยวเดินป่าได้พบรอยเท้าเหมือนรอยเท้าเสือโคร่ง โดยพบใกล้กับซากสัตว์ที่ถูกกัดกินอยู่ห่างจากถนนสายกาญจนบุรี-เขื่อนศรีนครินทร์ เข้าไปเขตพื้นที่ป่าลึกประมาณ 10 กิโลเมตร
“เมื่อมีการแจ้งข่าวมายังอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อความไม่ประมาทจึงขอแจ้งเตือนไปยังชุมชนใกล้เขตฯ สลักพระ ให้ระมัดระวัง และตนได้กำชับไปด้วยว่า ห้ามทำร้ายเสือโดยเด็ดขาด และหากใครพบเห็นให้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน หรือเจ้าหน้าที่เขตฯ สลักพระ เพื่อร่วมกันหาแนวทางป้องกันเพื่อช่วยกันอนุรักษ์ให้เสือโคร่งให้คงอยู่ในป่าสลักพระตลอดไป” นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าว
นายศรัทธา กล่าวต่อว่า การที่มีเสือโคร่งเข้ามาอาศัยในเขตพื้นที่ป่าใดๆ ถือว่าเป็นข่าวดีมากสำหรับจังหวัดกาญจนบุรี เท่าที่สอบถามกำนัน ผู้ใหญ่บ้านต่างเล่าว่า ไม่มีชาวบ้านพบรอยเท้าเสือโคร่งมานานเกือบ 20 ปี ดังนั้น เพื่อให้เรื่องการพบรอยเท้าเสือโคร่งได้รับการตรวจสอบยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตนจะประสานงานให้เข้าตรวจสอบข้อมูลนี้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระอีกครั้งหนึ่ง และหากเป็นเรื่องจริงก็ต้องร่วมกับบูรณาการเพื่อร่วมกันอนุรักษ์ดูแลเสือโคร่งไว้ให้ได้