น่าน - เจ้าท่าแพร่สั่งเอกชนรื้อถอน และยกเลิกการถมที่ดินทับลำเหมืองสมุนและทางสาธารณะกว่า 2 ไร่ หลังกระทบชาวบ้านดอนมูลกว่า 100 หลังคาเรือน
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลดู่ใต้ มีตัวแทนชาวบ้านดอนมูล หมู่ 13 ต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน จำนวน 50 คน ได้รวมตัวเพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีเอกชนถมที่ดินรุกล้ำลำเหมืองสมุนและทางสาธารณประโยชน์ พื้นที่ 2 ไร่กว่า และการถมที่ทับลำเหมืองได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปัญหาน้ำท่วมในชุมชนบ้านดอนมูล ซึ่งมีประชาชนอาศัยกว่า 100 หลังคาเรือน
โดยตัวแทนชาวบ้านได้ประชุมร่วมกับปลัดเทศบาลตำบลดู่ใต้, ปลัดอำเภอเมืองน่าน, ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาแพร่ และตัวแทนจากสำนักงานที่ดินจังหวัดน่าน
นายสุชาติ เศรษฐยานนท์ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาแพร่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการถมที่ดินของนายเทียมฮง แซ่เจีย ซึ่งเป็นเอกชนที่ถมดินรุกล้ำทับลำเหมืองสมุนและพื้นที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่ประมาณ 2 ไร่กว่า พบว่าการถมที่ดินดังกล่าวรุกล้ำจริง ซึ่งขณะนี้ได้มีการออกหนังสือเป็นคำสั่งให้นายเทียมฮงดำเนินการรื้อถอนและให้คืนสภาพลำเหมืองสมุนให้เป็นดังเดิม ซึ่งเรื่องพิพาทดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ ต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งคำสั่งรื้อถอนจะมีผลให้นายเทียมฮงดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน หลังจากรับหนังสือคำสั่ง แต่หากไม่ดำเนินการก็จะต้องมีคำสั่งศาลบังคับต่อไป
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนชาวบ้านยังกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับหมู่บ้าน เนื่องจากระยะเวลาที่ให้เอกชนรื้อถอนและการฟ้องร้องตามกระบวนการอาจต้องใช้ระยะเวลานาน ขณะที่สภาพปัญหาน้ำท่วมจะเริ่มกระทบให้ช่วงฤดูฝนที่จะถึงนี้แล้ว
นายบรรจบ ศรีทุมมา อยู่บ้านเลขที่ 92/13 หมู่ 13 บ้านดอนมูล ต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน เปิดเผยว่า ในทุกปีชุมชนบ้านดอนมูลต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจากเป็นชุมชนติดลำเหมืองสมุน แต่ก็เป็นลักษณะน้ำเอ่อล้นท่วมฉับพลัน ยังพอขนของหนีน้ำได้
แต่เมื่อมีการถมดินทับลำเหมืองทำให้ลำเหมืองแคบและตื้นเขิน รวมทั้งเป็นการเปลี่ยนทิศทางน้ำ ทำให้หลังจากนี้จากแค่น้ำเอ่อท่วมก็จะกลายเป็นลักษณะน้ำป่าหลากและทิศทางน้ำไหลพุ่งตรงเข้าหมู่บ้านทันที จะส่งผลกระทบต่อชาวชุมชนกว่า 100 หลังคาเรือน
นายนิตย์ ธิศรี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 13 บ้านดอนมูล ต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน กล่าวว่า หลังจากรับฟังขั้นตอนกระบวนการที่หน่วยงานเกี่ยวข้องชี้แจงถึงความคืบหน้า ชาวชุมชนดอนมูลก็รับทราบและเข้าใจว่าต้องใช้ระยะเวลา และจะติดตามความคืบหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นปัญหาที่กระทบทั้งหมู่บ้าน
ซึ่งกรณีเอกชนรุกล้ำที่สาธารณะครั้งนี้ยังทำให้พบว่ามีการออกโฉนดที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งชาวบ้านจะขอใช้สิทธิร้องให้มีการตรวจสอบด้วย รวมไปถึงชาวชุมชนบ้านดอนมูลที่ไม่พอใจนายบุญช่วย ขัติยา ผู้ใหญ่บ้านดอนมูล หมู่ 13 ที่ไปร่วมลงชื่อเป็นพยานในเอกสารบันทึกข้อตกลงที่นายเทียมฮง แซ่เจีย ได้ทำกับชาวบ้านสมุน หมู่ 7 ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท โดยไม่รักษาผลประโยชน์ของชุมชนบ้านดอนมูล ซึ่งเรื่องทั้งหมดชาวบ้านดอนมูลจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด
