“พ่อ นรต.โยวโย่ว” เปิดใจทั้งน้ำตา “ก่อนลูกรักจากไปแบบไม่มีวันกลับ”

ราชบุรี - “สาธร พุทชัยยงค์” บิดา “นรต.ชยากร (โยวโย่ว) พุทธชัยยงค์” เปิดใจ “ลูกอยากเป็นตำรวจ” ทั้งที่พ่อแม่ไม่อยากให้เป็น แต่สุดท้ายลูกก็มากราบเท้าขอโทษ จนต้องปล่อยเขาไป และกลายเป็นสิ่งที่เจ็บปวด ลูกกระโดดร่มไม่กางจนจากไปไม่มีวันกลับ

วันนี้ (1 เม.ย.) ที่วัดโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งศพ นรต.ชยากร (น้องโยวโย่ว) พุทธชัยยงค์ อายุ 19 ปี นักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน (นรต.) ชั้นปีที่ 2 รุ่น 69 ที่เสียชีวิตจากการฝึกโดดร่มแล้วร่มไม่กางที่สนามโดดร่มตุงคะเตชะ ค่ายนเรศวร อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เมื่อเช้าวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา

นายสาธร พุทชัยยงค์ บิดาของ นรต.ชยากร (โยวโย่ว) พุทธชัยยงค์ อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนวัดดีบอน ตำบลบ้านฆ้อง อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ได้เปิดเผยถึง “น้องโยวโย่ว” ทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวของตนมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คนเท่านั้น คือ ตน ภรรยาคือนางสิริรัตน์ พุทธชัยยงค์ ซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลโพธาราม และน้องโยวโย่ว ซึ่งเป็นลูกชาย และเป็นลูกคนเดียวของตน และนางสิริรัตน์

สาเหตุที่เกิดขึ้นคงหนีไม่พ้นเกิดจากความประมาทสะเพร่าของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และอีกอย่างที่หลายคนพูดคุยกันก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะคนที่ตลาด และเพื่อนๆ จะรู้จักชื่อ โยวโย่ว ซึ่งแปลว่ากลับมาเป็นลูกดิ่ง แต่ตอนนี้ โยวโย่ว ซึ่งแปลว่ากลับมา เขาไม่กลับมาอีกแล้ว

“ที่ผมตั้งชื่อ โยวโย่ว เพราะความหมายดี” นายสาธร กล่าว

พร้อมกับกล่าวต่อว่า หลังจาก น้องโยวโย่ว เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แถวบ้าน แล้วก็ได้ไปสอบเข้าเรียนต่อชั้นมัะยมศึกษษปีที่ 1 (ม.1) ที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศราชบุรี พอ โยวโย่ว เรียนอยู่ชั้น ม.2 วันหนึ่งเรา 3 พ่อ แม่ ลูก ก็ได้มานั่งคุยกันในบ้านว่า โตขึ้นมา โยวโย่ว อยากเป็นอะไร ลูกตอบว่า แล้วป๊า กับม๊า คิดว่า โยวโย่ว อยากเป็นอะไร ตนจึงตอบไปว่า ถ้าใจป๊าอยากให้เรียนสูงแล้วมาเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัย

แต่ม๊า นางสิริรัตน์ พุทธชัยยงค์ พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลโพธาราม แม่ของโยวโย่ว บอกว่า ถ้าให้ม๊า เลือกได้ ม้าอยากให้ โยวโย่ว เป็นเภสัชกร เพราะเป็นงานไม่เสี่ยงแค่จัดยาตามใบสั่งแพทย์ การผิดพลาดแทบไม่มี แล้วตนได้ถามลูกว่า อยากเป็นอะไร โยวโย่ว ตอบว่า อยากเป็นสัตวแพทย์ เพราะรักสัตว์มาก เพราะที่บ้านมีสุนัขอยู่หลายตัว

นายสาธร กล่าวต่อว่า ต่อมาได้มีนักเรียนเตรียมทหาร กับนักเรียนเหล่านายร้อยตำรวจ นายร้อยทหารบกมาแนะแนวที่โรงเรียนที่ โยวโย่ว เรียนอยู่ โดยเขามาแนะแนวให้นักเรียนชั้น ม.3 ฟัง แต่โยวโย่ว อยู่ชั้น ม.2 ก็ได้มีโอกาสมาฟังด้วย เขาจึงกลับมาบอกว่า โยวโย่ว จะสอบเตรียมทหาร พวกเราก็ท้วงว่าเห็นวันก่อนบอกว่าอยากเป็นสัตวแพทย์ แต่ โยวโย่ว บอกกลับว่า อันนั้นเอาไว้ก่อนครับ เพราะต้องรอจบชั้น ม.6 แต่โยวโย่ว จะขอสอบเตรียมทหารก่อน

โดย โยวโย่ว บอกว่า “ผมอยากเป็นตำรวจจากที่พี่เขามาแนะแนว” พอจบชั้น ม.2 แล้วพี่นักเรียนนายร้อยตำรวจก็พาโยวโย่ว ไปเที่ยวโรงเรียนเตรียมทหารที่จังหวัดนครนายก ตอนปิดเทอม ยิ่งเป็นการฝังให้เขาอยากเป็นตำรวจมากขึ้น โดยพูดกับพ่อว่า โยวโย่ว มีโครงการ 365 วันแห่งความสำเร็จ และชูกำปั้นว่าโยวโย่ว จะทำให้ได้ และจะทำสถิติในโพธาราม ซึ่งยังไม่เคยมีใครสอบได้ตั้งแต่ชั้น ม.3 ทำข้อสอบเก่าย้อนหลัง 9 ปี แต่ละปีดูสถิติการสอบตัวเองว่าสูงแค่ไหน

จนมาถึงข้อสอบฉบับสุดท้ายปีล่าสุด ผมเป็นคนตรวจคะแนนให้โยวโย่ว เองรวมคะแนนที่ได้ พอไปดูสถิติที่สอบได้ย้อนหลังมันเกินขั้นต่ำไปตั้งเยอะ ทำให้ความหวั่นใจเริ่มมาเยือนแล้วเพราะเราไม่ชอบตำรวจ พอไปเปิดข้อเขียนดูแล้วซึ่งจะต้องสอบสมรรถภาพทางร่างกาย 8 ฐาน ซึ่งโยวโย่ว ให้ผมเป็นเทรนเนอร์ให้

ส่วนแม่ก็ไม่สบายใจ และไม่อยากให้เป็น ผมก็ลืมตัวให้ไปซื้อหนังสือก็พาไป ซึ่งได้ปลอบใจแม่ไปว่าไม่เป็นไรคนเป็นหมื่น แต่ลูกกลับสอบเข้าได้ ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็ไปตกพละ แต่เขาเตรียมตัวมาเป็นปี ตั้งแต่เล็กเป็นนักกีฬามาตลอด เล่นโทควันโด ได้สายดำตั้งแต่ยังไม่จบ ป.6 มีทุนทางร่างกายมาสูงมาก บวกกับ 365 วัน แห่งความสำเร็จก็สำเร็จสมใจเขา

ผลประกาศออกมาได้แน่ๆ ผ่านทุกขั้นตอน เหลืออยู่ขั้นตอนเดียวที่พ่อแม่จะต้องไปรายงานตัวในฐานะผู้ปกครอง จึงเริ่มเบรกเขาอย่างแรงว่า ทำไมถึงอยากเป็นตำรวจ เขาตอบว่า “โยวโย่ว ชอบการบริการคน โยวโย่ว จะอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน” สั้นๆ แค่นี้

นายสาธร กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่ได้ถูกปลูกฝังจากที่พ่อเป็นครู มีความยุติธรรม แม่เป็นพยาบาลคงมาจากก้นบึ้งความรู้สึกเขา จึงบอกเขาเป็นเดตไลน์ว่า “ถ้าหนูไปเป็นตำรวจหนูไม่ต้องเอาเงินเดือนมาให้ป๊ากับม๊ากินหรอก ป๊าไม่กินไม่ใช้ ไม่รู้ว่าเงินนั้นมายังไง เขาเสียใจบอกว่าถ้างั้นโยวโย่ว ขอเวลาทบทวน 24 ชั่วโมงครับ”

หลังจากนั้นเขาหายไป 24 ชั่วโมง ไม่พูดคุยกับเรา พอครบวันรุ่งขึ้น ลูกมาคุกเข่ากราบเท้าบอกว่า “โยวโย่วขอโทษครับป๊า โยวโย่ว ตัดสินใจแล้วครับ โยวโย่ว ขอโทษครับ โยวโย่วเอาครับ” นั่นคือจุดสุดท้ายที่เรายอมปล่อยเขาไป

“นี่ไงบริการประชาชนเจ็บปวดมั้ย คนเป็นพ่อแม่ที่ไปดูการโดดร่มของลูก หวังเพื่อเป็นกำลังใจ เป็นการโดดวันแรกเที่ยวบินแรก ล็อตแรก แล้วผมก็เสียลูกไปเพราะร่มไม่กางสลิงขาด อยู่ในที่เกิดเหตุถามใครสไตล์เดิมกันทั้งหมด”นายสาธร พุทชัยยงค์ บิดาของ นรต.ชยากร (โยวโย่ว) พุทธชัยยงค์กล่าว