เชียงราย - การเมืองท้องถิ่นเชียงรายเดือดตั้งแต่ไก่โห่ ศึกชิงนายก อบจ.เริ่มโหมโรง ด้วยการจ้างคนฟังปราศรัย ด้านแกนนำ นปช. รับอีเวนต์เดินสายตั้งเวทีประโคมหนุนพี่สาว “ยุทธ ตู้เย็น”
รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า วันนี้ (31 มี.ค.) กลุ่มการเมืองท้องถิ่นที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ต่างมีการจัดเวทีหาเสียงกันตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มอดีตสมาชิกสภา อบจ.เชียงรายได้จัดเวทีในวันนี้ถึง 3 แห่งเพื่อหาเสียงให้ นางบุษริณธญ์ (ติยะไพรัช) วรพัฒนานันท์ พี่สาวของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งเปิดตัวจะสมัครรับเลือกตั้งแทนนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช อดีตนายก อบจ.เชียงราย ซึ่งถูกศาลฎีกาตัดสินเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 10 ปี ในคดีกระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย เมื่อปี 2547
เวทีแรกจัดขึ้นที่หน้าด่านพรมแดนไทย-สปป.ลาว บริเวณเชียงของเมืองใหม่ ต.สถาน อ.เชียงของ โดยมีการจัดเวทีปราศรัยเหมือนเวทีก่อนหน้านี้ ซึ่งตระเวนจัดขึ้นที่สนามกีฬากลาง จ.เชียงราย ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.แม่สรวย และสนามโรงเรียนพานวิทยาคม อ.พาน ซึ่งเวทีที่ อ.เชียงของ จะจัดขึ้นในเวลาประมาณ 15.00 น.
โดยมีการแจ้งต่อผู้จะไปรับฟังว่าจะมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.ฯลฯ นำคณะเดินทางไปปราศรัยเหมือนเวทีที่ผ่านๆ มาด้วย แต่เมื่อถึงเวลาปรากฏว่ามีเพียงนายณัฐวุฒิ และเจ๋ง ดอกจิก มาขึ้นเวทีปราศรัยเท่านั้น
จากนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. มีกำหนดไปปราศรัยต่อที่สนามโรงเรียนบ้านปล้อง ต.ปล้อง อ.เทิง และช่วงค่ำเวลาประมาณ 19.00 น.จะไปปราศรัยที่สนามโรงเรียนแม่จันวิทยาคม ต.ป่าซาง อ.แม่จัน ต่อไป
ขณะที่ว่าที่ผู้สมัครรายอื่นๆ โดยเฉพาะตัวเต็งที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งแข่งขันกับ นางบุษริณธญ์ คือ นางรัตนา จงสุทธนามณี อดีตนายก อบจ.เชียงราย นั้นมีการจัดรถออกตระเวนไปตามจุดต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ขณะที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้มีกำหนดวันเลือกตั้งรวมทั้งวันประกาศรับสมัครแต่อย่างใด แต่คาดการณ์กันว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 4 หรือ 11 พ.ค.นี้ค่อนข้างแน่นอน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับกระแสเรื่องการหาเสียงในช่วงนี้พบว่ามีหัวคะแนนของว่าที่ผู้ที่จะสมัครบางคนได้มีการเกณฑ์ชาวบ้านไปร่วมกิจกรรมเป็นเงินรายหัว หัวละประมาณ 100 บาท
ส่วนคนที่ขับรถไปและมีคนนั่งท้ายรถไปด้วยจะได้รับคันละประมาณ 500 บาท ซึ่งถือเป็นการโหมโรงรับการเลือกตั้งกันตั้งแต่ยังไม่มีการประกาศรับสมัครหรือกำหนดวันเลือกตั้ง