ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สวนสัตว์เชียงใหม่จัดรถบรรทุกน้ำฉีดพ่นตลอดทั้งวัน หลังสภาพอากาศร้อนจัดและสถานการณ์หมอกควันยังไม่คลี่คลาย เพื่อคลายร้อนและเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศดูแลสัตว์ไม่ให้ได้รับผลกระทบ
สวนสัตว์เชียงใหม่ทำการติดตั้งท่อฉีดพ่นละอองน้ำตามจุดต่างๆ รอบสวนสัตว์เชียงใหม่ รวมทั้งใช้รถบรรทุกน้ำออกฉีดเป็นช่วงเวลาระหว่างวันในช่วงนี้เป็นประจำทุกวันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศบรรเทาปัญหาหมอกควัน และคลายร้อนให้กับสัตว์ รวมทั้งนักท่องเที่ยว เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ด้วย
โดยนายสัตวแพทย์ กาญจน์ชัย แสนวงศ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า การฉีดพ่นน้ำเป็นมาตรการหนึ่งในการดูแลสัตว์ในช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัดเช่นนี้ เนื่องจากเกรงว่าสัตว์จะได้รับผลกระทบ ซึ่งนอกจากการคลายร้อนแล้วยังเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศบรรเทาปัญหาหมอกควันไปพร้อมกันด้วย
ทั้งนี้ หากสภาพอากาศยังร้อนจัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์หมอกควันยังไม่คลี่คลายก็มีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มความถี่ของการนำรถบรรทุกน้ำออกฉีดพ่น
สำหรับการดูแลสัตว์ในช่วงอากาศร้อนจัดนั้น นอกจากการฉีดพ่นน้ำแล้ว ได้มีการเพิ่มร่มเงาในส่วนจัดแสดงต่างๆ เพื่อให้สัตว์ใช้หลบร้อน และมีการเตรียมน้ำไว้ให้ด้วย ทั้งเพื่อให้สัตว์กินและคลายร้อน รวมทั้งมีการให้อาหารเสริมวิตามินป้องกันการเจ็บป่วยด้วย ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวสวนสัตว์ในช่วงนี้นั้น ได้มีการจัดเตรียมจุดพักหลบร้อนไว้บริการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าควรเตรียมร่มกันแดดมาด้วย
ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือคาดการณ์อุณหภูมิของภาคเหนือว่า พื้นที่ภาคเหนือเข้าสู่ช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัดของปีในระลอกแรก เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนที่ปกคลุมภาคเหนือทำให้อากาศร้อนอบอ้าวในตอนกลางวันกับมีฟ้าหลัว
โดยอุณหภูมิสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ร้อนจัดในหลายพื้นที่ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบว่าที่อำเภอเถิน จ.ลำปาง อุณหภูมิทำลายสถิติของปีนี้พุ่งสูงถึง 41.2 องศาเซลเซียส ขณะที่ตัวเมืองลำปาง 40.7 องศา เขื่อนภูมิพล จ.ตาก 41.0 องศา อ.เมือง จ.ลำพูน 40.4 องศา แม่ฮ่องสอน 40.0 องศา และที่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ 40.0 องศา
ทั้งนี้ สภาพอากาศร้อนจะปกคลุมภาคเหนือจนถึงช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยในช่วงตั้งแต่วันที่ 2-4 เม.ย.นี้มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยก่อนที่จะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ
ซึ่งในระยะแรกจะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเจอกับพายุฝนฟ้าคะนองในลักษณะของพายุลูกเห็บ และพายุฤดูร้อน ก่อนที่ในช่วงประมาณ 4-6 เม.ย.พื้นที่ภาคเหนือจะได้รับผลกระทบเจอกับพายุฤดูร้อนในช่วงดังกล่าว