กาฬสินธุ์ - เกมการเมืองกาฬสินธุ์ส่อเดือดในอนาคตอันใกล้ หลังอดีต ส.จ.หมู พลิกชนะเลือกตั้ง ส.ว.กาฬสินธุ์ แบบถล่มทลายด้วยผลคะแนนเลือกตั้งไม่เป็นทางการ 151,348 คะแนน ทิ้งคู่แข่งเกือบ 3 หมื่นคะแนน ชี้ชัยชนะท่วม สื่อถึงเกิดขั้วอำนาจใหม่ทางการเมืองกาฬสินธุ์ สะท้อนถึงการเลือกตั้ง ส.ส. รวมถึงการเมืองท้องถิ่นทุกสนามครั้งต่อไป
วันนี้ (31 มี.ค. 57) ภายหลังจากผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดกาฬสินธุ์ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ผลการเลือกตั้ง ส.ว.กาฬสินธุ์ อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายวิรัช พิมพะนิตย์ หรือ ส.จ.หมู ผู้สมัครเบอร์ 1 ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 151,348 คะแนน
ส่วนอันดับที่ 2 ได้แก่นายแพน พรไตรศักดิ์ เบอร์ 4 ได้คะแนน 124,461 คะแนน อันดับ 3 นายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ เบอร์ 3 ได้คะแนน 84,418 คะแนน และอันดับสุดท้าย นายทิวา แจ้งสุข เบอร์ 5 ได้คะแนน 8,602 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 52
นายวีระศักดิ์ ภูครองหิน ประธาน กกต.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ถึงแม้ประชาชนจะออกมาใช้สิทธิน้อยกว่าที่ กกต.ตั้งเป้าไว้อย่างน้อยร้อยละ 60 แต่ถือว่าผลการเลือกตั้งออกมาเป็นที่พอใจ ซึ่งในระหว่างการหาเสียงรวมถึงการเลือกตั้ง ไม่พบว่ามีการร้องเรียนปัญหาด้านการทุจริตเลือกตั้ง มีเพียงกระแสข่าวการใช้เงิน ถือเป็นเรื่องปกติในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง
นับจากนี้ กกต.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์จะรายงานผลการเลือกตั้งให้ กกต.กลางประกาศผลอย่างเป็นทางการ ในส่วนที่จะมีการร้องเรียนผู้สมัครหรือไม่ กกต.ยังคงรอรับเรื่องอยู่ แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ส่วนบรรยากาศการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2557 เป็นไปอย่างดุเดือด เนื่องจากตัวเต็งหนึ่งอย่างนายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ (เจ้าของฉายาจอมขมังเวท) อดีต ส.ส. 8 สมัย และหายจากวงการเมืองกาฬสินธุ์ ไปนานเกือบ 10 ปี ได้หวนกลับมาลงเลือกตั้ง ส.ว. จนทำให้ตัวเต็งในพื้นที่ซึ่งก็ไม่แพ้กันประกอบด้วย นายวิรัช พิมพะนิตย์ หรืออดีต ส.จ.หมู และนายแพน พรไตยศักดิ์ หรือนายอำเภอแพน ต่างร้อนๆ หนาวๆ ต่างฝ่ายต่างชิงความได้เปรียบด้วยการเข้าขอรับความช่วยเหลือจากอดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทยทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง
จึงเป็นการชิงความได้เปรียบ ใช้ฐานคะแนนของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะจอมขมังเวท และนายอำเภอแพน ต่างช่วงชิงเครือข่ายหัวคะแนนของอดีต ส.ส.เพื่อไทยไว้ใช้ในการเลือกตั้ง นับจากเริ่มต้นหาเสียงนายอำเภอแพน มีความโดดเด่นมาก เนื่องจากได้ฐานะเสียงของอดีต ส.ส. ในเขตเลือกตั้งที่ 1 และเขต 2 ช่วยเหลือ ขณะที่นายวิวรรธนไชยได้เพียงอดีต ส.ส.เขต 5 ช่วยเหลือ แต่ก็ยังมีคะแนนแฟนพันธุ์แท้คอยสนับสนุนอยู่ลับๆ ส่วนอดีต ส.จ.หมู กลับได้พลังจากบรรดา ส.อบจ.กาฬสินธุ์ และอดีต ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 3, 4, 6 ช่วยหาคะแนนเสียง
เมื่อเข้าโค้งสุดท้ายถึงแม้นายวิวรรธนไชย พยายามจะพลิกเกม ด้วยการขอหัวคะแนนเสริม แต่ก็ไม่ทัน ผลจึงทำให้ในวันเลือกตั้งเป็นการต่อสู้ระหว่างอดีต ส.จ.หมู กับนายอำเภอแพน โดยหลังจากปิดหีบเลือกตั้ง ผลนับคะแนนของอดีต ส.จ.หมู และนายอำเภอแพน จึงออกมาแบบขับเคี่ยวกันอย่างหนัก
ในช่วงแรก คะแนนของนายอำเภอแพนพุ่งกระฉูดนำอดีต ส.จ.หมู กว่าหมื่นคะแนน แต่ก็ต้องมาแตกปลาย หลังจากที่ผลคะแนนในเขตรอบนอกโดยเฉพาะเขตอำเภอเมือง พุ่งทะลุสูงเกือบ 2 หมื่นคะแนน ทำให้คะแนนของอดีต ส.จ.หมูพุ่งเฉือนชนะคู่แข่งอย่างขาดลอยกว่า 3 หมื่นคะแนน
ประเมินชัยชนะของอดีต ส.จ.หมู ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า สนามการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือแม้แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดกาฬสินธุ์ ชี้ชะตาอนาคตการเมืองของกลุ่มคลื่นลูกใหม่ ประกอบด้วยเครือข่ายสายญาติ “พิมพะนิตย์” โดยเฉพาะสายของ ส.อบจ.กลุ่มใหม่ ที่แสดงออกให้เห็นถึงขุมพลัง ที่กำลังสร้างความสั่นสะเทือนในวงการการเมืองกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในอนาคตที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทั้งชี้ให้เห็นถึงปัญหากลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ขาดเสถียรภาพความปรองดองกลายเป็นความเสื่อมของพรรคเพื่อไทย ที่จะทำให้ขั้วอำนาจใหม่สามารถผงาดได้ในสนามการเลือกตั้งในครั้งต่อไป