ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่ รวบสาวแปดริ้วลอบขนไอซ์กว่า 4 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 13 ล้านบาท ซุกรถเข็นเด็กจากเมืองกว่างโจว ประเทศจีนเ สารภาพรับจ้างแก๊งคนดำขน จนท.คาดเป็นเครือข่ายเดียวกับชาวอินโดนีเซียที่เพิ่งโดนจับ
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 พร้อมด้วย นาวาอากาศโทหลักชัย เฉลยปราชญ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงผลการจับกุบ น.ส.ศิวพร ศรีภูมิชน อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนัก 4.2 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 13 ล้านบาท ที่ลักลอบนำเข้ามาจากเมืองกว่างโจว ประเทศจีน โดยซุกซ่อนในรถเข็นเด็กที่ถูกดัดแปลงนำขึ้นเครื่องบินโดยสารมาจากฮ่องกง ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ช่วงค่ำวานนี้
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเดินทางมาจากฮ่องกง ด้วยเครื่องบินของสายการบินฮ่องกงเอ็กซ์เพรส (HONGKONG EXPRESS) เที่ยวบินที่ UO 753 ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 19.20 น. โดยเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นลักษณะส่อพิรุธ รวมทั้งเมื่อนำกระเป๋าสัมภาระ และกล่องกระดาษที่บรรจุรถเข็นเด็กแบบพับ 2 กล่อง ของผู้ต้องหาผ่านการตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์ พบว่ามีสิ่งผิดปกติอยู่ที่รถเข็นเด็ก จึงให้ผู้ต้องหาทำการเปิดกล่องบรรจุภัณฑ์เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด พบไอซ์บรรจุห่อมิดชิดอย่างดีซุกซ่อนไว้เบาะนั่ง และพนักพิงหลังของรถเข็นเด็กทั้ง 2 คัน ซึ่งดัดแปลงไว้เป็นพิเศษคันละ 2 ห่อ รวม 4 ห่อ น้ำหนักรวม 4.23 กิโลกรัม จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางดำเนินคดี
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนด้วยค่าจ้าง 30,000 บาท และเพิ่งทำเป็นครั้งแรก โดยได้รับการชักชวนจากชาวต่างชาติผิวสีที่รู้จักผ่านทางโปรแกรมหาเพื่อนทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งบอกว่ามีงานให้ทำรายได้ดี จึงตอบตกลง และเดินทางไปรับของที่เมืองกว่างโจว ประเทศจีน แล้วไปขึ้นเครื่องบินที่ฮ่องกง เดินทางต่อมายังจังหวัดเชียงใหม่ โดยที่จะมีผู้มารับไปส่งต่อ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่การจับกุมผู้ต้องหาพร้อมไอซ์ในครั้งนี้ อาจจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการจับกุมชาวอินโดนีเซีย พร้อมไอซ์ 2.85 กิโลกรัม ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่เมื่อสัปดาห์ก่อน เพราะมีลักษณะร่วมกัน ทั้งแหล่งที่มาจากเมืองกว่างโจว และความบริสุทธิ์ของไอซ์ ซึ่งจะมีการขยายผลต่อไป โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติที่เป็นแก๊งคนดำ
สำหรับการจับกุมผู้ต้อหาที่ลักลอบขนไอซ์ได้ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ในช่วงเวลาห่างกันไม่มากนั้น นายเสรี กล่าวว่า แสดงให้เห็นแนวโน้มของกลุ่มลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาจากต่างประเทศ ที่หันมาใช้ช่องทางท่าอากาศยานในหัวเมืองใหญ่แทนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาจะเป็นไอซ์เป็นหลัก เพราะมีมูลค่าสูง รวมทั้งพบว่าปริมาณที่ลักลอบนำเข้ามาแต่ละครั้งเพิ่มขึ้นจากแต่ก่อนด้วย สะท้อนให้เห็นความต้องการที่มีมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจ และสกัดกั้นอย่างเต็มที่
ด้าน น.ส.ศิวพร กล่าวว่า รับจ้างขนของโดยไม่ทราบว่าเป็นยาเสพติด โดยเพิ่งทำเป็นครั้งแรกด้วยค่าจ้าง 30,000 บาท ที่จะได้รับเมื่อส่งของได้สำเร็จ ซึ่งรับงานนี้ตามคำชักชวนจากชาวต่างชาติผิวดำ ที่รู้จักผ่านทางโปรแกรมหาเพื่อนทางโซเชียลมีเดีย ให้ไปรับของที่เมืองกว่างโจว แล้วขึ้นเครื่องบินมาที่เชียงใหม่ จากนั้นจะมีคนมารับของต่อ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครอีกเช่นกัน เพราะคนที่มารับของต่อจะเป็นฝ่ายติดต่อมาเอง โดยที่ตนเองก็มาถูกจับกุมตัวเสียก่อน
