ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วัน เผย 23-24 มี.ค. ภาคเหนือ-กลาง ยังมีพายุฤดูร้อน-ลูกเห็บตก อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วน 25-29 มี.ค. ฝนฟ้าคะนองลดลง อากาศร้อนขึ้น
วันนี้ (23 มี.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 23-29 มีนาคม ว่าช่วงวันที่ 23-24 มีนาคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนจากประเทศพม่าเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ภาคเหนือ และภาคกลางมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ช่วงวันที่ 25-29 มีนาคม บริเวณความกดอากาศสูงจะมีกำลังอ่อนลง และคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบนไปประเทศลาว ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองลดลง อากาศจะร้อนขึ้น และร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ
ข้อควรระวังช่วงวันที่ 23-24 มีนาคม ขอให้ประชาชนณภาคเหนือ และภาคกลาง ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
ภาคเหนือ วันที่ 23-24 มีนาคม มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-24 องศาเซลเซียส สูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงวันที่ 25-29 มีนาคม อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-25 องศาเซลเซียส สูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 23-24 มีนาคม มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส สูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงวันที่ 25-28 มีนาคม อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง วันที่ 23-24 มีนาคม มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงวันที่ 25-29 มีนาคม มีเมฆบางส่วน และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก วันที่ 23-24 มีนาคม มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนช่วงวันที่ 25-29 มีนาคม อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก วันที่ 23-24 มีนาคม มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส สูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไปทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนช่วงวันที่ 25-29 มีนาคม มีเมฆบางส่วนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก วันที่ 23-24 มีนาคม มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนช่วงวันที่ 25-29 มีนาคม มีเมฆบางส่วน และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล วันที่ 23-24 มีนาคม มีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงวันที่ 25-29 มีนาคม มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส