xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! หลักหมุดที่ดินโผล่หรากลางป่าอนุรักษ์-แบ่งล็อกเตรียมขายเสร็จสรรพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - ผอ.สำนักอนุรักษ์ที่ 11 สั่งลุยยึดที่ป่าคืน หลังพบหลักหมุดกรมที่ดินปักหรากลางป่าอนุรักษ์ ริมถนนสาย 12 พิษณุโลก-หล่มสัก 2 แปลงรวมเกือบ 40 หลักหมุด แบ่งล็อกเตรียมจัดสรรขายกันเสร็จสรรพ แถมพบโค่น-กานไม้หวงห้ามเหี้ยน

วันนี้ (20 มี.ค.) นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 ได้สั่งการให้นายไพรัช มณีงาม ผอ.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สบอ.11 ลงพื้นที่ตรวจยึดผืนป่าที่สวนรุกขชาติ น้ำตกสกุโณทยาน ริมถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก หมู่ที่ 2 ตำบลวังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก คืนให้แผ่นดิน เนื่องจากมีชาวบ้านแผ้วถาง เตรียมแบ่งล็อก ปรากฏหลักโฉนดบนพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานนายสำรวย ชมบุญ หัวหน้าสายปราบปรามประจำสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สายที่ 1 และนายวิขันธ์ แก้วชาญ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.8 (น้ำยาง) และให้ผู้ใหญ่บ้าน-ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวังนกแอ่น นำชี้และร่วมตรวจยึด

พบหลักเขตที่ดินปักอยู่ในเขตสวนรุกขชาติบริเวณพื้นที่ป่าหลังหมู่บ้าน มีการจับจองเพื่อรอการรังวัดตรวจสอบ เตรียมการออกเอกสารสิทธิครอบครอง หรือยึดถือครอบครอง ทั้งๆ ที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิทำกินได้ ไม่ว่าจะเป็น น.ส.3 หรือโฉนด ทั้งยังพบต้นไม้ถูกกานต้น และเผาป่าเป็นบริเวณกว้าง

เมื่อ จนท.จับพิกัด พบว่าที่ดินดังกล่าวทิศเหนือติดทางหลวงแผ่นดินเส้นทางสายพิษณุโลก-หล่มสัก ทิศตะวันตก-ทิศใต้ติดที่ทำการเกษตรกรรมของราษฎร ส่วนทิศตะวันออกมีสภาพเป็นป่าเบญจพรรณ ถูกบุกรุกจำนวน 57 ไร่ แบ่งเป็นรุกเข้าพื้นที่สวนรุกขชาติสกุโณทยา 25 ไร่ นอกเขตสวนรุกขชาติฯ แต่อยู่ในเขตป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 เนื้อที่ 32 ไร่

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินสำรวจพบว่า แปลงที่ 1 หลักเขตหมุดที่ดินฝังอยู่ในป่าจำนวน 21 หลัก เพื่อยึดถือครอบครอง ไม้ขนาดเล็กถูกตัดฟันด้วยของมีคม โค่นล้มกระจัดกระจายทั่ว บางส่วนเก็บริบสุ่มเผา และมีไม้ประดู่, ไม้แดง, ไม้เต็ง รัง ถูกใช้มีดถากบริเวณโคนต้น (กาน) เพื่อให้ยืนต้นตายแปรสภาพป่าจากป่าเบญจพรรณ-ป่าเต็งรัง ชนิดป่าดิบแล้ง เป็นพื้นที่ทำกิน ทั้งที่ไม่พบร่องรอยผ่านการใช้ประโยชน์พื้นที่มาก่อน ไม่เหมาะแก่การทำการเกษตร มีก้อนหินขนาดเล็กกระจัดกระจายทั่ว

แปลงที่ 2 มีหลักหมุดที่ดินมีตัวเลขสัญลักษณ์กรมที่ดินชัดเจนฝังอยู่ 16 หลักหมุด เนื้อที่ 5-3-14 ไร่ นอกสวนรุกขชาติ น้ำตกสกุโณทยาน แต่อยู่ในเขตป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 และมีชาวบ้านเข้ามาปลูกกล้วย มะม่วง หวังปิดบัง ตบตา อำพราง เพื่ออ้างว่า เคยทำกินมาก่อน แต่ไม่มีบุคคลแสดงตนเป็นเจ้าของ

นายกมลไชยเปิดเผยว่า ได้สั่งยึดพื้นที่บุกรุกทั้งหมดคืนแล้ว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตที่ดินราชพัสดุขอใช้ประโยชน์ และโค่นไม้ประดู่, แดง, เต็ง, รัง เป็นไม้หวงห้าม จำเป็นต้องยึดเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง และพร้อมจะดำเนินขอคืนที่บุกรุกที่หลวงต่อไป

“ยืนยันว่าชาวบ้านรุกที่อนุรักษ์ และที่ป่าสงวนบริเวณริมถนนใหญ่หน้าสวนรุกขชาติฯ ทั้งๆ ที่ไม่สามารถออกโฉนดได้”

สอบถามข้อมูลจากนายสุวรรณ ม่วงศรี ผู้ใหญ่บ้าน, นายประจง เนาวโชติ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวังนกแอ่น ทราบว่า ผู้บุกรุกแผ้วถางยึดถือครอบครองที่ดินดังกล่าวมีจำนวน 4 ราย ทั้งหมดอยู่ในหมู่ 2 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก คือ นายบุญช่วย จันทร์น้ำคบ บ้านเลขที่ 102, นายสุรัตน์ ธัญอุดม บ้านเลขที่ 107, นายส้มโอ ฉิมสา บ้านเลขที่ 68, นายสิน จันแสน บ้านเลขที่ 65

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบุคคลนอกพื้นที่ หรือนายทุนเข้ามาติดต่อขอซื้อที่ดินจากชาวบ้าน เพียงแต่ใช้ชื่อคนในพื้นที่ถือครอง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงทำบันทึก ร่วมกันกล่าวโทษ มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 และมาตรา 54 ประกอบมาตรา 55 ครอบครองป่าที่ถูกแผ้วถาง

ส่วนหลักเขตที่ดินที่ฝังอยู่ในพื้นที่น่าจะเป็นการรังวัดหมายแนวเขตการสำรวจยึดถือครอบครองของสำนักงานที่ดิน และหลักฐานหลักเขตที่ดินเป็นพัสดุของกรมที่ดิน น่าจะมีผู้เบิกมาดำเนินการ ดังนั้นจะต้องมีผู้รับผิดชอบทางกฎหมาย เพราะส่อเจตนาในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ





กำลังโหลดความคิดเห็น