ลำปาง - จังหวัดลำปางร้อนต่อเนื่องจนทะลุ 40 องศาติดต่อกัน 3 วัน ขณะที่ ปภ.ลำปางเตือนระวังลมพายุฤดูร้อนระหว่าง 20-23 มีนาคมนี้
นายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ จ.ลำปาง กำลังประสบปัญหาหมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก จากการเผาไหม้ที่เกิดขึ้นตลอดในช่วงเดือนมีนาคม 2557 จนทำให้ค่าเฉลี่ยหมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน
โดยเฉพาะในเดือนนี้ค่าเฉลี่ยเกินมาแล้ว 19 วัน แต่หากนับรวมมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา จ.ลำปางค่าเฉลี่ยเกินค่ามาตรฐานจากสถานการณ์หมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็กจากการเผาไหม้มีจำนวนสะสมมากถึง 28 วัน
และวันนี้ (20 มี.ค.) ค่าเฉลี่ยในพื้นที่ จ.ลำปางเกินค่าเพียง 1 สถานีที่ตัวเมืองลำปาง วัดได้ 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนอีก 2 สถานีที่ตั้งอยู่ใน อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน วัดได้ระหว่าง 81-99 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
นอกจากปัญหาหมอกควันไฟที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ลำปางแล้ว ประชาชนชาวลำปางยังต้องพบเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างมาก และถือว่าเป็นสภาพอากาศที่ร้อนจัด เนื่องจากพื้นที่ จ.ลำปางอุณหภูมิสูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้
โดยเฉพาะในช่วง 3 วัน คือระหว่างวันที่ 17-19 มี.ค. 57 ปรากฏว่า จ.ลำปางมีอุณหภูมิสูงทะลุ 40 องศาเซลเซียสติดต่อกัน 3 วัน รวมถึงวันนี้อุณหภูมิก็ยังคงทะลุ 40 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าอากาศร้อนมาเร็วและสูงเร็วกว่าปีก่อนเช่นกัน
เมื่อเทียบกับปี 2556 อุณหภูมิทะลุ 42 องศาเซลเซียสที่ อ.เถิน จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 56 ส่วนตัวเมืองลำปางสูงสุดอยู่ที่ 41.7 องศาเซลเซียส
ส่วนทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปางได้ประกาศแจ้งเตือนให้ทุกส่วนเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาวาตภัย ซึ่งเป็นลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง
โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าในวันนี้ ถึงวันที่ 23 มี.ค. 57 รวม 3 วัน ปริมาณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ซึ่งจะทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น
โดยลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองดังกล่าวอาจจะมีทั้งลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาวาตภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน บ้านเรือน โรงเรือน พืชผลทางการเกษตร จึงขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เตรียมแผนรองรับและเฝ้าระวัง
ส่วนประชาชนในพื้นที่ก็ขอให้มีการติดตามข่าวสารของทางราชการอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบความแข็งแรงของที่อยู่อาศัยไว้ด้วย