ประจวบฯ ผนึกหอการค้าเตรียมเจรจาการค้าเมืองมะริด พม่ารองรับเปิดด่านถาวรสิงขร

ประจวบคีรีขันธ์ - จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พาณิชย์จังหวัด จับมือหอการค้าประจวบฯ เตรียมเจรจาการค้ากับนักธุรกิจเมืองพม่า ที่เมืองมะริด ระหว่าง 26-28 มี.ค.นี้ เพื่อเปิดการเจรจาการค้าในธุรกิจ 6 ประเภท รองรับการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขร ขึ้นเป็นจุดผ่านแดนถาวร

วันนี้ (18 มี.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 26-28 มี.ค.นี้ ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธฺ์ พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะเดินทางไปเจรจาการค้ากับภาคเอกชนของเมืองมะริด ที่ประเทศพม่า

โดยการเจรจาการค้าระหว่างภาคเอกชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กับภาคเอกชนของเมืองมะริดในครั้งนี้ จะมีการค้าทั้งหมด 6 ประเภทด้วยกันที่ฝ่ายพม่าต้องการ คือ 1.อุตสาหกรรมสัตว์น้ำ ประมง ห้องเย็น 2.อุตสาหกรรมเกษตร การแปรรูป 3.วัสดุก่อสร้าง 4.สินค้าอุปโภคบริโภค 5.อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ 6.อุตสาหกรรมด้านต่างๆ

“การเจรจาระหว่างนักธุรกิจเมืองมะริด และนักธุรกิจฝั่งไทยนั้นย่อมต้องส่งผลดีต่อการค้าขายระหว่างประเทศภายหลังการประกาศเปิดเป็นด่านถาวรที่ช่องสิงขรแน่นอน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างฝั่งพม่าเท่านั้นที่จะต้องดำเนินการเรื่องของเขตแดนในบางส่วน หากเสร็จขั้นตอนนี้แล้วคณะกรรมการไทยพม่า (เจบีซี) ก็จะส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำตามขั้นตอน และส่งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย ที่จะประกาศยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขรเป็นจุดผ่านแดนด่านถาวรต่อไป” นายวีระ กล่าว และกล่าวต่อว่า

การพัฒนา และเปิดด่านสิงขรให้เป็นด่านถาวรนั้น สามารถสร้างโอกาสทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวในพื้นที่บริเวณด่าน และในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้อีกหลายเท่าตัว ซึ่งประเมินเบื้องต้นไว้ไม่ต่ำกว่าปีละ 36,000 ล้านบาท

นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สิ่งที่จะทำให้เกิดประโยชน์ในอนาคตหลังจากกระทรวงมหาดไทย ประกาศเปิดด่านสิงขรเป็นถ่านถาวรนั้นมีมากมาย ที่ผ่านมา นักธุรกิจที่เดินทางไปลงทุนทางทวายก็ได้ให้ความสนใจบริเวณด่านสิงขรนี้เหมือนกัน ซึ่งการเจรจาธุรกิจการค้าในครั้งนี้จะมีภาคเอกชนของจังหวัดเพชรบุรี เดินทางไปด้วย ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่รวมๆ แล้ว 6 ประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการเกษตร และการท่องเที่ยว ฯลฯ

“อย่างน้อยที่สุดก็เป็นโอกาสดีที่นักธุรกิจของไทยได้ไปพบปะนักธุรกิจของเมืองมะริด และเมืองใกล้เคียงของฝั่งพม่าว่าทั้ง 2 ฝ่ายสนใจสินค้าประเภทใด เราสนใจสินค้าประเภทไหนของพม่า เช่นกันพม่าสนใจสินค้าอะไรของฝั่งไทย ที่นำไปเสนอ” นายศรุอัฐ กล่าว

นายศรุอัฐ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของด่านสิงขรนั้น ทางหอการค้าภาพกลาง 4 จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ได้ประชุมร่วมกัน และหยิบยกเรื่องการเปิดด่านสิงขร เป็นด่านถาวรเป็นไพล็อตโปรเจกต์ สำคัญของหอการค้าภาคกลางที่จะต้องสนับสนุน และผลักดันให้มีการเปิดเป็นด่านถาวร และได้ส่งเรื่องให้หอการค้าไทย ได้ดำเนินการผลักดันให้รัฐบาลเร่งดำเนินการต่อไป เพื่อเป็นการเปิดการค้าขายชายแดนไทยพม่าด้านประจวบฯ กับเมืองมะริดต่อไป