น่าน - ผู้บังคับการตำรวจภูธรน่าน นำทีมแถลงโชว์ผลงานจับกุม 3 คดีอาชญากรรม ทั้งฆ่าคนตาย-ลัก จยย. ยันสถิติคดีลด 15%
วันนี้ (18 มี.ค.) พล.ต.ต.ณรงค์ชัย วงษ์สามี ผบก.ภ.น่าน พ.ต.อ.วีระชัย บั้งเงิน พ.ต.อ.นพดล กรึงไกร รอง ผบก.ภ.จว.น่าน พ.ต.อ.สุชาติ สิงห์ขรณ์ ผกก.สภ.เมืองน่าน ได้ร่วมกันแถลงข่าวคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ความรับผิดชอบ 3 คดี
คือ คดีฆ่านายนก กองคำ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.8 ต.กองควาย อ.เมืองน่าน ซึ่งถูกนายประดิษฐ์ ทินัน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.8 ต.กองควาย อ.เมืองน่าน ใช้ขวานฟันเข้าบริเวณศีรษะ จนเสียชีวิตคาบ้านพัก เมื่อวันที่ 3 มี.ค.57 ที่ผ่านมา เพราะไม่พอใจที่นายนก (ผู้ตาย) ชอบเมาสุราแล้วมาทุบสังกะสีรั้วบ้านของตนส่งเสียงดังรบกวน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา นายประดิษฐ์ ทินัน ได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุม
ส่วนอีก 2 คดีคือ คดีลักทรัพย์ ที่ร้านข้าวสารแจ่มศิริ ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน ผู้ต้องหา คือ นายทินกฤต ศรีงาม อายุ 23 ปี ชาวบ้านม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน ซึ่งรับสารภาพว่าได้ขโมยเงินของนางแจ่มศิริ จันขึ้น เจ้าของร้านข้าวสาร ซึ่งมีเงินในกระเป๋า จำนวน 40,000 บาท แต่ได้ขโมยไปจำนวน 6,000 บาท เพื่อนำไปใช้หนี้ 4,500 บาท เหลือเงิน 1,490 บาทติดตัวไว้ ชุดสืบสวนสามารถติดตามเบาะแสคนร้ายได้จากกล้องวงจรปิดของทางร้าน
อีกคดีมีผู้ต้องหาเป็นเยาวชนชาย อายุ 17 ปี จำนวน 2 คน ถูกชุดสืบสวนติดตามจับกุมได้ หลังได้เบาะแสจากชิ้นส่วน และป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ถูกทิ้งไว้ที่หอพักแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่อำเภอภูเพียง โดยเจ้าของหอพักระบุว่า ผู้เช่าเป็นเยาวชนชาย แต่ได้ย้ายออกไปแล้วในช่วงปิดเทอม
จากการติดตามสืบสวนพบว่า ป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นทะเบียนรถของนางติ่ง จินะไชย ที่ได้แจ้งความรถหายไว้ที่ สภ.ภูเพียง เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามสืบสวนต่อไปจนจับกุมตัวเยาวชนที่ลงมือก่อเหตุได้ 2 คน
และจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันออกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ในเขตพื้นที่ อ.เชียงกลาง อ.เมืองน่าน และ อ.ภูเพียง รวม 4 คัน แล้วนำมาแยกชิ้นส่วนขายนำเงินมาแบ่งกัน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป พร้อมกับเตรียมสืบสวนขยายผลต่อไปด้วย
พล.ต.ต.ณรงค์ชัย เปิดเผยว่า คดีอาชญากรรม โดยเฉพาะคดีลักรถในพื้นที่จังหวัดน่าน มีสถิติลดลงร้อยละ 15 ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเยาวชนในจังหวัดน่าน ส่วนหนึ่งต้องการอะไหล่เพื่อแต่งรถของตัวเอง อีกส่วนเพื่อขายชิ้นส่วนอะไหล่ และยังเป็นกลุ่มเฉพาะจำพวกที่นิยมรถคลาสสิกด้วย
นอกจากนี้ ก็เป็นคดีลักษณะยักยอกทรัพย์ ซึ่งได้สั่งกำชับให้เร่งติดตามสืบสวนเพื่อป้องกัน และปราบปรามเหตุอาชญากรรม