อุบลราชธานี - แกนนำกลุ่มชักธงรบ ซีกหนึ่งของ นปช.อุบลราชธานี มองเปลี่ยนประธาน นปช.จาก “ธิดา” เป็น “ตู่ จตุพร” ไม่มีอะไรใหม่ แค่ปรับกลยุทธ์ให้ดูดีตามสถานการณ์ที่ “แรมโบ้อีสาน” ลงมาเล่นกับมวลชน เชื่อสถานการณ์ไม่รุนแรงขึ้น
นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา แกนนำกลุ่มชักธงรบ และ นปช.จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงประธาน นปช.จากนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ เป็นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวของ นปช.ในช่วงนี้ เพราะสถานการณ์ต่างจากปี 2553 ขณะนั้น นปช.เรียกร้องหาประชาธิปไตย ต้องการรัฐบาลของคนเสื้อแดง ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้อยู่แล้ว โดยในช่วงนั้น นปช.เป็นฝ่ายรุก แต่ขณะนี้เราเป็นฝ่ายรับ และทหารก็ไม่เล่นด้วยกับ กปปส.
การมองว่า นปช.เอานายจตุพรมาเพื่อปรับกลยุทธ์ขนมวลชนเข้าไปปะทะกับกลุ่ม กปปส.คงไม่ใช่ เพราะขณะนี้กลุ่ม กปปส.ก็กำลังหาทางลง ส่วนข้อเรียกร้องของ กปปส.บางข้อ คนเสื้อแดงก็เห็นด้วยเช่นการปฏิรูปประเทศ แต่การปฏิรูปต้องมาตามกลไกของรัฐธรรมนูญไม่ใช่ล้มกระดาน
“การเอานายจตุพรขึ้นเป็นประธาน นปช.ครั้งนี้ถือเป็นการตอบแทนที่พลาดหวังตำแหน่งทางการเมืองมาหลายครั้ง คิดเช่นนั้นก็ได้ ขณะนี้สถานการณ์ดูเหมือนนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ กำลังเล่นเกมสร้างมวลชนทำให้ดูขึงขัง กลุ่ม นปช.ก็เลยต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปด้วย จึงเหมาะสมที่จะให้นายจตุพรเป็นแกนนำในขณะนี้”
นายพิเชษฐ์กล่าวถึงกลุ่มชักธงรบไม่ร่วมเคลื่อนไหวหลายครั้งว่า เพราะห่วงความปลอดภัย มีบทเรียนตั้งแต่ปี 2553 คนเสื้อแดงสูญเสียพอสมควร หลายคนยังถูกคุมขัง ส่วนตนก็ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งอีกกว่า 120 ล้านบาทกรณีศาลากลางถูกเผา ล่าสุดที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน มวลชนเสื้อแดงเสียชีวิตไปอีก 3 ราย ดังนั้นการเคลื่อนไหวต่อไปต้องมีเหตุผลที่สมควรด้วย
ส่วนการเคลื่อนไหวของนายสุภรณ์มองว่าไม่มีอะไร นอกจากหวังสร้างเครดิตให้ผู้ใหญ่เห็นเท่านั้น โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของ 7 องค์กรที่กำลังหาทางออกให้ประเทศในขณะนี้ ทุกฝ่ายควรรับฟังก่อน อย่าด่วนปฏิเสธทั้งที่ยังมองไม่เห็นอะไร