ศูนย์ข่าวศรีราชา - พบช้างป่าในพื้นที่ป่าภาคตะวันออก มีเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่แหล่งอาศัยลดน้อยลง ทำให้ช้างป่าเข้ามาหากินในพื้นที่ของชาวบ้านสร้างความเดือดร้อน จนท.เตรียมสรรหาพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ไว้รองรับ
ดร.สุชาติ โภชฌงค์ ผู้อำนวยการส่วนสารสนเทศด้านอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงสถานการณ์ช้างป่าในพื้นที่ป่าภาคตะวันออกในขณะนี้ว่า ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน, อุทยานแห่งชาติ เขาชะเมา, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว, อุทยานแห่งชาติ เขา 15 ชั้น โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ช้างอาศัยอยู่จะเป็นพื้นที่ราบประมาณ 70%
สำหรับพิกัดที่เจ้าหน้าที่พบช้างป่านั้นไม่ใช่พบตัวช้าง โดยเป็นเพียงร่องรอยของช้างป่าที่เข้ามาหากินในป่าดังกล่าวที่มีแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ แต่ปัจจุบันหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ เริ่มเข้าไปบุกรุกพื้นที่อาศัยหากินของช้างป่า เช่น กิจกรรมของมนุษย์ แปลงปลูกป่าที่ไม่ใช่อาหารของช้าง ทำให้ช้างป่าต้องหนีไปหากินยังแหล่งอื่น
ดร.สุชาติ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ช้างป่ามีประมาณ 5 กลุ่ม ที่อาศัยอยู่ในผืนป่าบริเวณดังกล่าว มีจำนวน 350 ตัว และเริ่มขยายออกมาสู่ผืนป่าชุมชน สร้างปัญหา และส่งผลกระทบต่อชาวบ้านและพื้นที่ทำกินจนไม่สามารถออกไปทำงาน หรือใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ดังนั้น จะต้องมีการปรับปรุงพื้นที่ที่ช้างป่าอาศัยอยู่ให้มีความอุดมสมบูรณ์เช่นเดิม เช่น ย้ายสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ออกมาอยู่ด้านนอกแทน
นอกจากนั้น จะต้องหาพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ไว้รองรับจำนวนช้างที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการหาพื้นที่ไว้รองรับช้างป่าดังกล่าว แต่ที่มองว่าเหมาะสม คือ บริเวณผืนป่าจังหวัดอุตรดิตถ์
แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการออกแบบพื้นที่ให้ชัดเจนก่อน เช่น มีรั้วไฟฟ้ากั้นระหว่างหมู่บ้าน กับแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า เพื่อไม่ต้องการให้มีการแย่งพื้นที่ซึ่งกันและกันอีกต่อไป
“ปัจจุบันพบช้างป่าบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง สร้างความเดือดร้อนต่อชาวบ้าน และบางครั้งถูกทำร้ายจนเสียชีวิต โดยปัญหาดังกล่าวเกิดจากพื้นที่ป่าลดลง แหล่งอาหารไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงต้องเร่งหาพื้นที่เพื่อให้ช้างป่ามีที่อาศัย และพื้นที่หากินอย่างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการ”