ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผอ.ป่าไม้ 8 โคราชเต้นส่ง จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่า และสายตรวจปราบปราม ลงพื้นที่บุกตรวจสอบคฤหาสน์หรูและโฮมสเตย์ “ธาริต” อื้อฉาว ผุดบ้านพักรุกป่าฮุบภูเขา ต.หนองน้ำแดง ปากช่อง ชี้อยู่ในเขตป่าสงวนฯ เขาเฉียดอ้า จริง หากพบบุกรุกเจอโทษหนักทั้งจำคุกและปรับ ลั่นรู้ผลใน 2-3 วัน
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีบ้านคฤหาสน์หรูหลังใหญ่ และโฮมสเตย์ ฟิออร์เร ปาร์ค ( Fiore Park Home stay) เลขที่ 444 หมู่ 11 บ.มอกระหาด ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อันอื้อฉาวของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทั้งข้อครหาว่ามาจากความร่ำรวยผิดปกติในตำแหน่งหน้าที่การงาน และพบมีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติสร้างอาคารบ้านพักบนภูเขา รวมทั้งก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายเป็นจำนวนมากตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดนายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า วันนี้ (11 มี.ค.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.1 (ปากช่อง) และสายตรวจปราบปรามสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เป็นข่าวว่า การก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างบุกรุกพื้นที่ป่าหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าท้องที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน จริงตามที่เป็นข่าวในสื่อมวลชน
ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับตามมาตรา 31 กรณีบุกรุกไม่เกิน 25 ไร่ มีโทษจำคุก 6 เดือน-5 ปี ปรับ 5,000-50,000 บาท กรณีบุกรุกเกิน 25 ไร่ มีโทษจำคุก 2-5 ปี ปรับ 20,000-150,000 บาท
นายสมหวังกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบว่าทางเจ้าของบ้านพักหรือโฮมสเตย์ฟิออร์เร ปาร์ค นั้นได้มีการทำเรื่องเช่าหรือขออนุญาตเข้าใช้ประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติจากกรมป่าไม้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง และหากทำเรื่องเช่ากับกรมป่าไม้ก็ต้องดูในรายละเอียดเงื่อนไขอีกว่าเพื่ออยู่อาศัยหรือทำการเกษตร ซึ่งหากไม่มีการเช่าหรือไม่ได้รับอนุญาตเข้าทำประโยชน์ก็ถือว่ามีความผิดข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 14
อย่างไรก็ตาม เจตนารมณ์การให้เช่าป่าหรือเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติของกฎหมายฉบับนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรที่มีความจำเป็นเพื่อการครองชีพ และต้องเป็นป่าเสื่อมโทรม ไม่ใช่เขตป่าอนุรักษ์ ซึ่งเงื่อนไขในการเช่าต้องระบุชัดเจน โดยหลักแล้วให้เช่าเพื่อการเกษตรและเพื่อที่อยู่อาศัยเท่านั้น
“ทั้งนี้ การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาที่ดินดังกล่าวจะทราบผลภายใน 2-3 วันนี้ เพราะเรื่องนี้ไม่มีความซับซ้อนแต่อย่างใด” นายสมหวังกล่าว
คลิกเพื่อชมคลิป 1
คลิกเพื่อชมคลิป 2
คลิกเพื่อชมคลิป 3
คลิกเพื่อชมคลิป 4