กาญจนบุรี - ตำรวจกาญจนบุรี จับตัวไอ้โหดฆ่ากะเทยเจ้าของร้านเสริมสวยหมกห้องนอนได้แล้ว พร้อมคุมตัวไปทำแผนรับสารภาพ จนหวิดโดนประชาทัณฑ์ ผู้ต้องหาสารภาพเป็นคู่ขากันมานาน แต่วันเกิดเหตุผู้ตายขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยแต่ไม่ยอม และถูกผู้ตายขู่จะนำภาพลับที่เคยมีเพศสัมพันธ์กันลงประจานทางช่องแคมฟรอกเกย์ และพยายามข่มขืนตน จนเกิดความโมโหลงมือแทงดับ
คลิกเพื่อชมคลิป
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกเข้าไปในห้องเช่าดัดแปลงเป็นร้านเสริมสวย เลขที่ 49/5 หมู่ 1 ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ใช้อาวุธแทงนายรณชัย โพธิใบ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 1 ต.ทุ่งสมอ สาวประเภทสอง เจ้าของร้านเสริมสวยวันดีเสียชีวิตภายในห้องนอน สภาพศพถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่หน้าอกซ้าย และขวา เป็นแผลลึกข้างละประมาณ 1 นิ้ว ส่วนทรัพย์เป็นโน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ และเงินสดจำนวนหนึ่งหายไป ญาติพบเป็นศพเวลาประมาณ 19.30 น.วันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้วคือ นายจักรภัทร บุญญฤทธิ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200/20 บ้านหัวนาล่าง ซอย 7 หมู่ 10 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่ตลาดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ขณะคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาทำธุระนอกบ้านในเวลาประมาณ 17.30 น. เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา
จากนั้นจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.พนมทวน โดยผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงนายรณชัย เสียชีวิตจริง ส่วนทรัพย์สินได้นำไปขายตามร้านรับซื้อโทรศัพท์มือถือในพื้นที่ตลาดชุกโดน ส่วนโน้ตบุ๊กนำไปขายให้แก่ร้านค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ตลาดเทศบาลตำบลท่าเรือ
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (11 มี.ค.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุพมาส บัวลาด ผกก.สภ.พนมทวน พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ ไชยภูมิสกุล พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.พนมทวน พ.ต.ต.ชัยยศ พฤติพงศ์พาณิชย์ พงส.สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.กาญจนบุรี ทั้งใน และนอกเครื่องแบบกว่า 50 นาย คุมตัวนายจักรภัทร บุญญฤทธิ์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านเสริมสวยที่เกิดเหตุ โดยให้ผู้ต้องหาสวมหมวกกันน็อกเพื่อป้องกันการถูกชาวบ้านรุมทำร้าย
เมื่อไปถึงพบญาติผู้เสียชีวิต รวมทั้งชาวบ้านมารอดูการทำแผนอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกันชาวบ้านออกไป ขณะเจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวผู้ต้องหาลงจากรถเพื่อไปทำแผน ชาวบ้านที่เห็นต่างตะโกนสาปแช่งผู้ต้องหาไปต่างๆ นานา นอกจากนี้ มีญาติของผู้เสียชีวิตพร้อมทั้งชาวบ้านจำนวนหนึ่งพยายามแหวกวงล้อมของเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปทำร้าย พ.ต.อ.สุพมาส บัวลาด เห็นท่าไม่ดี จึงเปลี่ยนใจยกเลิกทำแผน พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ และรีบขับออกไปทันที
จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดทำแผนขั้นตอนที่ 1 คือ จุดที่นำเสื้อคลุมของผู้เสียชีวิตไปทิ้งที่บริเวณบนสะพานสมเด็จพระสังฆราช โดยผู้ต้องหาได้โยนทิ้งลงไปในแม่น้ำแควใหญ่ จุดที่ 2 นำตัวผู้ต้องหาไปที่ซอยโรงหีบ ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คือ บริเวณห้องน้ำร้างริมแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่นำโน้ตบุ๊กของผู้ตายไปซ่อนเอาไว้ ก่อนที่จะนำไปขายที่ตำบลท่าเรือ
จุดที่ 3 คือ จุดที่ทิ้งของกลางอาวุธมีดพับที่ใช้ก่อเหตุ โดยผู้ต้องหานำไปโยนทิ้งแม่น้ำแควใหญ่อยู่ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 30 เมตร จุดที่ 4 คือ บ้านของแฟนสาวที่อยู่ใกล้กันเป็นจุดที่นำเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุไปซ่อนไว้ที่ห้องนอนชั้นที่ 2 ของตัวบ้าน
จุดที่ 5 คือ บ้านพักของผู้ต้องหาหลังก่อเหตุได้หลบหนีมาซ่อนตัว แต่เมื่อไปถึงพบว่ากุญแจประตูบ้านล็อกด้วยกุญแจจากด้านนอก จึงไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ผู้ต้องหาโทรศัพท์ไปตามแม่มาเปิดห้อง ซึ่งปรากฏว่า แม่ของผู้ต้องหาพร้อมแฟนสาวเดินทางไปรอผู้ต้องหาที่ สภ.พนมทวน เจ้าหน้าที่จึงตัดสินจะกลับมาทำแผนที่จุดนี้ในภายหลัง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่ 6 คือ ที่ร้านซื้อขายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งในตลาดสดชุกโดน ซึ่งเป็นร้านที่ผู้ต้องหานำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายมาขายในราคา 2,000 บาท โดยพนักงานร้านได้นำเอกสารบัตรประชาชนถ่ายสำเนา และหลักฐานการซื้อขายมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำไปเป็นหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวพนักงานคนดังกล่าวไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.พนมทวน
ส่วนจุดที่ 7 อยู่ในพื้นที่เทศบาลตำบลท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นร้านที่ผู้ต้องหานำโน้ตบุ๊กไปขาย โดยหลังจากที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.พนมทวน
ทั้งนี้ นายจักรภัทร บุญญฤทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ตายเป็นช่างเสริมสวยแต่งตัวเป็นผู้ชาย แต่มีนิสัยตุ้งติ้งเหมือนกะเทย ตนกับผู้ตายเคยมีเพศสัมพันธ์แบบผู้ชายกับผู้ชายกันมาก่อนหลายครั้ง ขณะมีเพศสังพันธ์กัน นายรณชัย ได้ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ซึ่งตนไม่ได้คิดอะไร และผู้ตายจะให้เงินตนใช้อยู่เป็นประจำ
ต่อมา วันที่ 25 ก.พ.หลังจากนายรณชัย ปิดร้านตนได้เดินทางมาหาที่ร้านเสริมสวย จนกระทั่งเกือบเที่ยงคืน นายรณชัย จึงเอ่ยปากขอมีเพศสัมพันธ์กับตน แต่ตนไม่ยอม นายรณชัย จึงขู่ตนว่าจะนำภาพวิดีโอที่เคยถ่ายเอาไว้ขณะมีเพศสัมพันธ์กับตนไปลงช่องแคมฟรอก ซึ่งเป็นช่องแคมฟรอกของพวกรักร่วมเพศ หรือเกย์
จากนั้นจึงพยายามจะข่มขืนตนให้ได้ จึงเกิดการโต้เถียงกัน ด้วยความโมโห ตนจึงชักอาวุธมีดแทงนายรณชัย จนเสียชีวิต จากนั้นตนจึงค้นหาทรัพย์สินของผู้ตายเป็นโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง จากนั้นจึงหลบหนีไปอยู่ที่บ้านแม่ รวมทั้งบ้านของแฟนสาว โดยนำทรัพย์สินไปซ่อนไว้ก่อน หลังเกิดเหตุ 2 วัน จึงนำทรัพย์สินที่ได้มาไปขายให้แก่ร้านค้าดังกล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม เหตุที่เกิดขึ้นตนไม่คิดว่านายรณชัย จะบาดเจ็บถึงกับเสียชีวิต แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ตนไม่รู้จะพูดอะไร แต่ต้องขอโทษผู้ตาย และญาติของผู้ตายด้วย
ด้าน พ.ต.อ.สุพมาส บัวลาด ผกก.สภ.พนมทวน กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจของประชาชนทั้งใน และนอกพื้นที่ และผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจกับคดี จึงได้สั่งกำชับให้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ และหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานหลายปาก และในที่สุดรู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานได้ครบจนแน่ชัด ว่าผู้ก่อเหตุคือ นายจักรภัทร บุญญฤทธิ์ จึงนำหลักฐานเดินทางไปขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี และศาลได้อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้น ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตามประกบตัวคนร้ายอยู่ตลอดเวลา จนในที่สุดก็สามารถจับกุมตัวได้