ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มนักธุรกิจเมืองนนท์ โร่แจ้งตำรวจพัทยา หลังถูกชาวต่างชาติตุ๋นขาย “โรเล็กซ์” ปลอมสูญเงินสดนับแสนบาท
วันนี้ (8 มี.ค.) นายสมิทธ์ จุฑานุกาล อายุ 26 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่า ถูกชาวต่างชาติหลอกขายนาฬิกายี่ห้อดังในราคานับแสนบาท แต่เมื่อนำมาตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเป็นของปลอม
โดยนายสมิทธ์ ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของโรงงานผลิตของใช้พลาสติก ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี และเมื่อช่วงค่ำคืนวานได้เข้าไปในเว็บไซต์ของบีฟิต เพื่อติดต่อซื้อนาฬิกามือสอง ยี่ห้อโรเล็กซ์ รุ่นซัพมารีนเนอร์ ที่นายคาร์ล แอนเดียส ไมเคียล แอนเดอร์สัน (Mr.Carl Anders Mikael Andersson) อายุ 55 ปี สัญชาติสวีเดน ลงประกาศขายในราคา 1.1 แสนบาท ซึ่งตนเห็นว่าราคาถูก
เนื่องจากหากซื้อเรือนใหม่ราคาจะอยู่ที่ 2.4 แสนบาท จึงนัดเจอกับนายคาร์ล ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า พัทยากลาง เพื่อซื้อนาฬิกาเรือนดังกล่าวพร้อมส่งมอบเงิน และขอถ่ายภาพหนังสือเดินทางของนายคาร์ล ไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นหนุ่มใหญ่ชาวสวีเดน ได้รีบร้อนเดินทางออกจากห้างฯ ในท่าทีพิรุธ ตนจึงรีบนำนาฬิกามาตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งก็พบว่าเป็นของปลอม จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งชุดสืบสวนออกหาข่าว
พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ให้ช่วยเช็คหนังสือเดินทางว่าเป็นของจริงหรือไม่เพื่อติดตามตัวหนุ่มแสบชาวสวีเดนรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (8 มี.ค.) นายสมิทธ์ จุฑานุกาล อายุ 26 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่า ถูกชาวต่างชาติหลอกขายนาฬิกายี่ห้อดังในราคานับแสนบาท แต่เมื่อนำมาตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเป็นของปลอม
โดยนายสมิทธ์ ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของโรงงานผลิตของใช้พลาสติก ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี และเมื่อช่วงค่ำคืนวานได้เข้าไปในเว็บไซต์ของบีฟิต เพื่อติดต่อซื้อนาฬิกามือสอง ยี่ห้อโรเล็กซ์ รุ่นซัพมารีนเนอร์ ที่นายคาร์ล แอนเดียส ไมเคียล แอนเดอร์สัน (Mr.Carl Anders Mikael Andersson) อายุ 55 ปี สัญชาติสวีเดน ลงประกาศขายในราคา 1.1 แสนบาท ซึ่งตนเห็นว่าราคาถูก
เนื่องจากหากซื้อเรือนใหม่ราคาจะอยู่ที่ 2.4 แสนบาท จึงนัดเจอกับนายคาร์ล ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า พัทยากลาง เพื่อซื้อนาฬิกาเรือนดังกล่าวพร้อมส่งมอบเงิน และขอถ่ายภาพหนังสือเดินทางของนายคาร์ล ไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นหนุ่มใหญ่ชาวสวีเดน ได้รีบร้อนเดินทางออกจากห้างฯ ในท่าทีพิรุธ ตนจึงรีบนำนาฬิกามาตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งก็พบว่าเป็นของปลอม จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งชุดสืบสวนออกหาข่าว
พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ให้ช่วยเช็คหนังสือเดินทางว่าเป็นของจริงหรือไม่เพื่อติดตามตัวหนุ่มแสบชาวสวีเดนรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย