ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เชิญชวนประชาชน และหน่วยงานในพื้นที่ร่วมบริจาค และสมทบเงินเข้ากองทุน “โครงการรวมน้ำใจ ช่วยเหลือชาวนา” หลังร่วมบริจาคเข้ากองทุนแบบไม่หวังผลตอบแทน
วันนี้ (7 มี.ค.) นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิด “โครงการรวมน้ำใจ ช่วยเหลือชาวนา” ซึ่งจัดโดยสำนักงาน ธ.ก.ส.สาขาจังหวัดระยอง เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนร่วมบริจาค หรือสมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา บรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยมีนายบุญเลิศ ศรีแช่ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.สาขาระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. และประชาชนเข้าร่วม
นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ตนได้ร่วมบริจาคเงินสมทบกองทุนฯ จำนวน 2,000 บาท โดยไม่หวังผลตอบแทน และสมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาชนิดคืนต้น ไม่หวังผลตอบแทน อีก 15,000 บาท นอกจากนี้ สำนักงาน ธ.ก.ส.ระยอง ยังได้ร่วมบริจาคแบบไม่หวังผลตอบแทน เป็นจำนวนเงิน 31,690 บาท
“แม้ในเขตจังหวัดระยอง จะมีชาวนาเข้าร่วมโครงการไม่มากนัก แต่ก็ยังมีชาวนาทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนกว่า 9 แสนราย และกำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนร่วมบริจาค และสมทบเงินเข้ากองทุน โดยการรวมน้ำใจครั้งนี้ถือเป็นการสร้างกุศลครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวเกษตรกรชาวนาที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอีกด้วย”
ขณะที่ นายบุญเลิศ ศรีแช่ม ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 ได้รับความเดือดร้อนประสบปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการผลิตทางการเกษตรในฤดูกาลผลิตรอบใหม่ และค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เนื่องจากยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ประมาณ 9 แสนรายทั่วประเทศ
โดยเฉพาะในส่วนของจังหวัดระยอง มีชาวนาขึ้นทะเบียน 310 ราย รอรับเงินโครงการจำนำข้าว อีก 44 ราย รวมเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท
ผู้สนใจสามารถร่วมสมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาได้ 3 รูปแบบ คือ 1.บริจาคเข้ากองทุนช่วยชาวนา บัญชีเลขที่ 0200-3-3477-582 ธ.ก.ส.สาขาบางเขน
2.สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยชาวนาชนิดคืนต้น ไม่หวังผลตอบแทนตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป และ 3.สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยชาวนาชนิดคืนต้นและมีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.63 ต่อปี โดยผู้สมทบทุนในแบบที่ 2
และ 3 กองทุนจะได้รับใบสมทบกองทุนฯ ไว้เป็นหลักฐานในการขอรับเงินคืนเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาโครงการฯ ในวันที่ 31 ธ.ค.2557