พระนครศรีอยุธยา - คนร้ายเมืองกรุงเก่าบุกเดี่ยวงัดรถบัสนักท่องเที่ยวขณะจอดแวะกินนข้าว ฉกเงินสดไปกว่า 38,000 บาท จนท.ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบภาพคนร้ายชัดเจนขณะลงมือปฏิบัติการ เตรียมตามล่าตัวมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (6 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่า รถบัสคณะนักท่องเที่ยวแวะที่จอดกินข้าวบริเวณถนนอู่ทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกคนร้ายงัดขึ้นไปขโมยทรัพย์สินได้เงินสดไปกว่า 38,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไปได้
เมื่อไปตรวจสอบพบรถบัสคันดังกล่าวเป็นรถบัสปรับอากาศ 2 ชั้น สีขาวลายเขียว ของบริษัทมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล การท่องเที่ยว เดินทางพาคณะมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธาธี เพื่อเดินทางไปดูงานที่บริษัทเวอร์พอยต์ จำนวน 31 คน แต่ได้แวะกินข้าวเที่ยงที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนเดินทางต่อ
หลังกินข้าวเสร็จ ขณะเตรียมเดินทางต่อคนขับรถได้มาตรวจสอบที่บริเวณรถปรากฏว่า มีรอยคนร้ายงัดประตูด้านข้างของรถจึงเรียกให้นักท่องเที่ยวที่มาในคณะ ตรวจสอบทรัพย์สินของตนเอง ปรากฏว่า กระเป๋าที่วางเบาะนั่งท้ายสุดของรถของนักท่องเที่ยวถูกรื้อค้น โดยคนร้ายได้เงินสดไปกว่า 38,000 บาท
นอกจากนี้ นายเอกพล สิงโบราญ อายุ 30 ปี คนขับรถบัสคันดังกล่าวได้พาเจ้าหน้าที่ไปดูรอยที่คนร้ายงัดทางประตูข้างพบมีรอยถูกงัดตั้งแต่ด้านล่างของประตูไปจนถึงมือจับ จากนั้นคนร้ายได้เดินขึ้นไปยังบนชั้น 2 ของรถก่อนที่จะกลับออก โดยเดินลงจากประตูด้านหน้า พร้อมทรัพย์สินที่ได้ไป
ขณะที่ นายศาสตร์ศิลป์ ทองแรง อายุ 34 ปี ที่ถูกคนร้ายขโมยเงินสดไปกว่า 38,000 บาทได้พาเจ้าหน้าที่ไปดูจุดที่ตนเองวางกระเป๋าไว้ด้านหลัง โดยเงินสดได้นำใส่ไว้ในกระเป๋าหนังแบบถือวางไว้บนเบาะพร้อมนำผ้าห่มวางปิดทับไว้ แต่พอขึ้นรถมาเห็นผ้าถูกรื้อออกและเงินสดได้หายไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าร้านอาหาร พบเห็นภาพรถบัสคันดังกล่าวจอดอยู่ และช่วงเวลา 12.21 น.มีชาย 1 คน สวมเสื้อแขนยาวคลุมทับเสื้อด้านในสีขาว สวมกางเกงยีนส์ พยามยามงัดประตูข้างรถ และเดินวนอยู่ข้างรถเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนอยู่
จากนั้นได้เปิดประตูเข้าไปในรถ จนเวลาผ่านไปประมาณ 4 นาที จึงได้เดินออกมาจากประตูรถด้านหน้าผ่านมาช่วงหน้ากล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถจับภาพคนร้ายได้ระยะไกล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบริเวณใกล้เคียงเพื่อเร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป
