อ่างทอง - ชาวนาอ่างทอง ต้องลงทุนเจาะน้ำบาดาลสูบน้ำทำนาสู้ภัยแล้ง หลังชลประทานหยุดส่งน้ำ 3 เดือน เผยต้องลงทุนเพื่อประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว
จากสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับในช่วงนี้ ทำให้นายเมฆ ทัดสา อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 5 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งมีอาชีพทำนามาตลอดชีวิต และต้องเช่าที่นาเขาทำในเขต อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ต้องลงทุนขุดเจาะบ่อบาดาลบริเวณที่นาเพื่อสูบน้ำเข้าไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวในนาที่กำลังตั้งท้องใกล้เก็บเกี่ยว หลังจากที่ชลประหยุดจ่ายน้ำเป็นระยะเวลา 3 เดือน
นายเมฆ เปิดเผยว่า หลังจากที่ชลประทานหยุดจ่ายน้ำเป็นเวลา 3 เดือน ทำให้คลองส่งน้ำแห้งขอด หากชาวนาคนใดที่ต้องการทำนาในช่วงหน้าแล้งในปีนี้ ก็ต้องหาแหลงน้ำตามธรรมชาติเพื่อสูบน้ำนำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวในนาของตนเอง
ส่วนนาที่ตนเองเช่าทำอยู่นี้ อยู่ไกลจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ตนจึงต้องขุดบ่อบาดาลเพื่อนำน้ำมาใช้ปลูกข้าว ถึงแม้จะเป็นการลงทุนที่สูง และเสี่ยงต่อภาวะขาดทุนก็ตาม แต่เนื่องจากตนไม่มีอาชีพอื่นก็ต้องเสี่ยงจ้างช่างมาขุดบ่อบาดาลโดยลงทุนไปเป็นจำนวนเงิน 17,000 บาท เพื่อสูบน้ำเข้าไปหล่อเลี้ยงข้าวที่กำลังตั้งท้องรอวันเก็บเกี่ยวดีกว่าปล่อยให้ยืนต้นตาย
นายเมฆ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ภัยแล้งกำลังส่งผลกระทบต่อชาวนาอย่างมาก ทำให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้น เมื่อทางชลประทานหยุดจ่ายน้ำ ทำให้ชาวนาไม่มีน้ำทำนา ชาวนาก็ต้องพึ่งตัวเอง และต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงลดระดับลง โดยสถานีโทรมาตร C7A หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ระดับน้ำอยู่ที่ 0.63 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.32 เมตร และยังมีทีท่าว่าจะลดลงอีกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดอ่างทองต่างเตรียมรับสภาวะภัยแล้งแล้ว