กาญจนบุรี - เกิดเหตุอาถรรพ์! ไฟไหม้ “โบสถ์วัดวังก์วิเวการาม” วัดหลวงพ่ออุตตมะ แบบไร้สาเหตุ และหาต้นต่อไม่พบ ทั้งที่ภายในโบสถ์ไม่ได้มีการจุดธูปเทียน อีกทั้งยังไม่มีไฟฟ้าใช้ หลัง จนท. ชาวบ้านช่วยกันสกัดเพลิงจนสงบตรวจสอบกลับไม่พบความเสียหาย ยกเว้นพรมที่ถูกไฟไหม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เผยพรุ่งนี้ศิษยานุศิษย์เตรียมบวชพระกว่า 100 รูป เพื่อฉลอง 103 ปี “ชาตกาลหลวงพ่ออุตตมะ” ในวันที่ 6 มี.ค.
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (4 มี.ค.) นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันนี้ ตนได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้โบสถ์วัดวังก์วิเวการาม หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จากการสอบถามพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม องค์ปัจจุบันบอกว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีศิษยานุศิษย์ และนักท่องเที่ยวเดินทางมาทำบุญที่วัดเป็นจำนวนมาก ต่อมา นักท่องเที่ยวได้พบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาตามหน้าต่างของโบสถ์ จึงแจ้งให้เจ้าอาวาสทราบ จากนั้นทางเจ้าอาวาสจึงได้เร่งประสานรถดับเพลิงเทศบาลวังกะ ที่มีอยู่ 2 คัน มาช่วยสกัดเปลวเพลิง
ขณะเดียวกัน ศิษยานุศิษย์ พร้อมทั้งชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างรีบเดินทางมาที่วัด และได้ช่วยกันนำกระป๋องตักน้ำ และตักทรายมาดับไฟ ไม่นานนักเปลวเพลิงก็สงบลง
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่าไม่มากนัก ส่วนพระเครื่องที่อยู่บนโต๊ะหมู่บูชาก็ไม่ได้ถูกไฟไหม้เสียหายแม้แต่น้อย จะมีก็เพียงพื้นของโบสถ์ที่ปูด้วยพรมถูกไฟไหม้เสียหายเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้นั้นขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
“จากการสอบถามเจ้าอาวาสทราบว่า ภายในโบสถ์ไม่ได้มีการจุดธูปเทียนเอาไว้แต่อย่างใด อีกทั้งไฟฟ้าก็ไม่มี ส่วนจะเป็นเพราะอากาศที่ร้อนจัดหรือไม่ก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้เช่นกัน ซึ่งถึงตอนนี้ทุกคนก็ยังสงสัย และงงกับสาเหตุอยู่ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร” นายชาธิป เผย
ด้าน พ.ต.ท.สิงหา วังวงศ์ทอง รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการตรวจสอบว่า สาเหตุของการเกิดไฟไหม้เกิดจากอะไรกันแน่ เพราะภายในโบสถ์ไม่ได้มีการจุดธูปเทียนเอาไว้ อีกทั้งไฟฟ้าก็ไม่มี ส่วนพื้นที่ใช้สำหรับวางธูปเทียน และดอกไม้ก็เป็นพื้นหินแกรนิต แต่ในเบื้องต้นทางเจ้าอาวาส ไม่ได้ติดใจแต่อย่างใด และให้ชาวบ้านช่วยกันเร่งทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว เพราะพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) จะมีพิธีบวชพระสงฆ์ และสามเณรเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทางวัดได้ร่วมกับชาวบ้านทำความสะอาดภายโบสถ์ที่ถูกไฟไหม้จนสะอาดแล้ว ได้มีการจัดดอกไม้ธูปเทียนเอาไว้ภายในโบสถ์ตามปกติ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูหน้าต่างของโบสถ์เอาไว้ เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) ทางวัดจะมีพิธีบวชพระสงฆ์สามเณรประมาณ 100 กว่ารูป เนื่องจากวันที่ 6 มี.ค. จะเป็นวันจัดงานเพื่อฉลอง 103 ปี ชาตกาลหลวงพ่ออุตตมะ
สำหรับวัดวังก์วิเวการาม และโบสถ์หลังนี้ สร้างขึ้นพร้อมกันเมื่อประมาณปี พ.ศ.2527 เพื่อทดแทนวัดเดิมและโบสถ์หลังเก่าที่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ หรือเขื่อนเขาแหลม ขึ้นในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย โดยใช้แรงงานซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ อ.สังขละบุรี
โดยเฉพาะชาวมอญ ไทยรามัญ และพม่า โดยมีหลวงพ่ออุตตมะ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม พระเกจิชื่อดัง แห่งเมืองสังขละบุรี ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทุกคน คอยดำริ