หนองคายรับมือภัยแล้งผลิตหญ้าแห้งเลี้ยงสัตว์

หนองคาย - สถานีพัฒนาอาหารสัตว์หนองคายห่วงภัยแล้งรุนแรง กระทบสัตว์เลี้ยง แนะเกษตรกรปลูกหญ้าพร้อมผลิตเป็นหญ้าแห้งและหญ้าหมัก เผยเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ลดลงร้อยละ 40 เหตุพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ราคาแพง แถมพื้นที่เลี้ยงสัตว์และปลูกหญ้ามีน้อย

นายปริญญา จเรรัชต์ หัวหน้าสถานีพัฒนาอาหารสัตว์หนองคาย ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดหนองคาย และจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูแล้งปีนี้น่าเป็นห่วงว่าภัยแล้งจะส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงประเภทโค กระบือ แพะ แกะ ซึ่งกินหญ้าเป็นอาหารหลัก

โดยในพื้นที่จังหวัดหนองคายมีสัตว์เหล่านี้ประมาณ 30,000 ตัว ลดลงจากเมื่อปีที่แล้วถึงร้อยละ 40 ส่วนพื้นที่จังหวัดบึงกาฬมีสัตว์เลี้ยงประมาณ 10,000 ตัว กระจายอยู่ทุกอำเภอ

สาเหตุหลักที่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ลดน้อยลง เนื่องจากพ่อแม่พันธุ์โดยเฉพาะโค กระบือนั้นมีราคาแพงมาก พื้นที่การเลี้ยงสัตว์ลดน้อยลง ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่การเกษตรชนิดอื่น โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกยางพาราทำให้พื้นที่เลี้ยงสัตว์ปลูกหญ้าลดน้อยลงตามไปด้วย

ขณะนี้สถานีพัฒนาอาหารสัตว์หนองคาย มีหญ้าแห้งในสต๊อก 90 ตัน จะสามารถนำหญ้าแห้งมาให้เกษตรกรได้ก็ต่อเมื่อมีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ภัยแล้ง น้ำท่วม ของจังหวัดก่อน จากนั้นสถานีจึงกระจายหญ้าแห้งได้ ซึ่งปริมาณสต๊อกที่มีอยู่ คาดว่าจะเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์

นายปริญญากล่าวว่า ที่สถานีพัฒนาอาหารสัตว์แห่งนี้เน้นการให้บริการเมล็ดพันธุ์หญ้าและท่อนหญ้า เช่น พันธุ์แพงโกลา, กินนีสีม่วง, รูซี่, เนเปียร์ ปากช่อง เกษตรกรนิยมมาขอรับเมล็ดพันธุ์และท่อนพันธุ์ไปปลูกในช่วงเดือน พ.ค.ของทุกปี

นอกจากนี้ยังมีชาวลาวมาติดต่อขอรับเมล็ดพันธุ์หญ้าไปปลูกด้วยเช่นเดียวกัน

เกษตรกรที่ปลูกหญ้าควรจะนำหญ้าสดผลิตเป็นหญ้าแห้ง รวมถึงหญ้าหมัก คือ การนำหญ้าพันธุ์เนเปียร์ปากช่อง หรือกินนีสีม่วง ที่มีอายุ 60 วัน เกี่ยวหญ้าแล้วสับเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้ความชื้นเหลือร้อยละ 70 จากนั้นนำหญ้าสับบรรจุในถังภาชนะสุญญากาศหมักไว้ 21 วัน จะได้หญ้าหมักที่มีคุณค่าโภชนาการไม่ต่างกับหญ้าสด เก็บไว้ให้โค กระบือ กินได้นานประมาณ 1 ปี จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารสัตว์ในช่วงฤดูแล้งได้