บุรีรัมย์ - ประชาคมสาธารณสุขจ.บุรีรัมย์ ขึ้นป้ายขนาดใหญ่หน้าสำนักงานประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการคอร์รัปชั่น สนับสนุนการปฏิรูปประเทศ หยุดหยั้งความรุนแรง ขณะจนท.พร้อมใจแต่งชุดดำประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ด้านตำรวจขึ้นป้ายหน้า สภ.เมืองบุรีรัมย์ “รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทยฯ”
วันนี้ (26 ก.พ.) สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ได้ขึ้นคัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีข้อความว่า “ต่อต้านคอร์รัปชันสนับสนุนการปฏิรูปประเทศ ประชาคมสาธารณสุข จ.บุรีรัมย์” และข้อความว่า “หยุดยั้งความรุนแรงทุกรูปแบบ สนับสนุนการปฏิรูประเทศไทย” ที่บริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ถนนจิระ ในเขตเทศบาลเมือง
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์และสร้างกระแสให้ประชาชนร่วมกันออกมาต่อต้านการคอร์รัปชันทุกรูปแบบและทุกสาขาอาชีพที่จะสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติบ้านเมือง พร้อมทั้งสนับสนุนการปฏิรูปประเทศเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็สร้างความสนใจให้แก่ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองก็ได้มีการขึ้นคัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีข้อความว่า “ขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ต่อต้านคอร์รัปชัน สนับสนุนการปฏิรูปประเทศไทย” ด้วยเช่นกัน
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ในสังกัดสาธารณสุขอำเภอเมืองยังได้พร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดสีดำเพื่อแสดงพลังต่อต้านการคอร์รัปชันและการใช้ความรุนแรงด้วย หลังจากเกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่พื้นที่ที่มีการชุมนุมทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด จนทำให้มีประชาชน รวมถึงเด็กที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย
นอกจากนี้ ที่บริเวณด้านสถานีตำรวจก็มีการขึ้นป้ายที่มีข้อความ “รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะอยู่ที่ไหนไหน ก็ไทยด้วยกัน”
ด้านนายรังสรรค์ พนานุสรณ์ สาธารณสุขอำเภอเมือง และในฐานะประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า การขึ้นป้ายหรือคัตเอาต์ที่มีข้อความต่อต้านการคอร์รัปชันหยุดยั้งการใช้ความรุนแรง และสนับสนุนการปฏิรูปประเทศในครั้งนี้เป็นมติของประชาคมสาธารณสุข ที่ต้องการประกาศเจตนารมณ์และสร้างกระแสให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้านการคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ ที่จะสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติบ้านเมือง
พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มใด แต่เป็นการแสดงพลังในฐานะประชาชนคนไทยเท่านั้น พร้อมกันนั้นยังได้เรียกร้องรัฐบาลและกลุ่มผู้ชุมนุมได้หันหน้าเจรจากันอย่างสันติโดยเร็ว เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมืองที่กำลังบอบช้ำอยู่ในขณะนี้