ระยอง - ผู้การระยอง ยืนยันทหารถูกจับพร้อมอาวุธปืน 3 คน เป็นแค่อดีตไม่เกี่ยวข้องหน่วยซีล หรือการเมือง โดยเป็นการแอบอ้าง ส่วนอีก 2 คน เป็นพลเรือน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (25 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ระยอง พล.ต.ต.สมนึก บุรมิ ผบก.ภ.จว.ระยอง กล่าวว่ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษระยอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธร จ.ระยอง จับกุม นายกรษภณ หรือบอย สิงห์ทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี พร้อมการ์ดส่วนตัวอีก 5 คน เป็นทหารหน่วยซีล ได้ที่ห้องอาหารไผ่ทองโรงแรมโกลเด้นซิตี้ ถนนสุขุมวิท ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง
พร้อมอาวุธปืนขนาด 38 ซูเปอร์ออโตเมติก ยี่ห้อโคลต์ 1 กระบอก กระสุน 14 นัด โดยมีการอ้างอิงว่า มีความสนิมสนมกับนักการเมืองระดับชาติ
สำหรับการด์ที่จับกุมได้พร้อมอาวุธ ประกอบด้วย
1.นายวงศพัทธ์ หรือปา รอบคอบ อายุ 30 ปี อยู๋บ้านเลขที่ 97 หมู่ 5 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พร้อมอาวุธมีดพับยาว 8 นิ้ว 1 เล่ม
2.นายภคพล วชิรบัณฑูร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซอยบรมราชชนนี แขวงฉิมพี เขตตลิ่งชัน กทม. พร้อมอาวุธปืนออโตเมติกขนาด 9 มม. (กล็อก) กระสุน 63 นัด
3.จ.อ.สถิตย์ สวนจันทร์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/159 หมู่ 6 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อบาเรตต้า หมายเลขทะเบียน กท 5215053 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 33 นัด
4.พ.จ.อ.ปิยะ มาตขาว อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205/119 หมู่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน หมายเลขประจำปืน MPF 0149 ทะเบียนหมายเลข กท 5035150 กระสุน 10 นัด
และ 5.จ.อ.อดินันท์ สมหวัง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208/271 หมู่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อบาเรตต้า หมายเลขทะเบียน 5086316 กระสุน 14 นัด
พล.ต.ต.สมนึก บุรมิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า การ์ดที่ถูกจับกุม 5 คน พบว่า เป็นพลเรือน 2 คน และทหารที่ถูกจับกุม 3 คน พร้อมอาวุธปืน 5 กระบอก มีด 1 เล่ม เคยเป็นแค่อดีตทหารหน่วยซีล ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาตพกพา เนื่องจากทุกคนมีใบอนุญาตปืนทุกคน ส่วนคนที่พกพามีดก็สั่งปรับไป ผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องการเมือง หรือหน่วยซีลของทหารเรือ
ส่วนที่มีการแอบอ้างว่า มีความสนิทสนมกับนักการเมืองชื่อดังระดับประเทศ ได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นเรื่องไม่จริง