ศรีสะเกษ - ตำรวจ สภ.ขุนหาญ ศรีสะเกษ ร่วม อส. บุกจับไม้พะยูงเถื่อน 2 รถบรรทุกสิบล้อ มากกว่า 1,000 ท่อน รวมมูลค่ากว่า 30 ล้าน พร้อมผู้ต้องหา 2 คน ระบุเป็นการจับไม้พะยูงรายใหญ่ที่สุดของ จ.ศรีสะเกษ ในรอบ 10 ปี
เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองบัว ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.กฤษกร หานุสิงห์ สว.สส. สภ.ขุนหาญ ร่วมกับนายเทพพิทักษ์ เหมือนสวรรค์ ปลัดอำเภองานป้องกันปราบปราม อ.ขุนหาญ สืบทราบว่า มีการลักลอบขนไม้พะยูงจำนวนมาก ที่บ้านเลขที่ 165 ม. 6 บ้านหนองบัว ต.โนนสูง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.ขุนหาญ ไปทำการตรวจสอบพบ มีชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน กำลังช่วยกันขนไม้พะยูงจำนวนมากขึ้นไปบนรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 80-6115 สุรินทร์ เมื่อกลุ่มคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ได้พากันวิ่งหนีหายไปในความมืด
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายพินิพล ผิวงาม อายุ 48 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวไว้ได้ ตรวจบนรถบรรทุกสิบล้อพบไม้พะยูงขนาดต่างๆ ความยาวตั้งแต่ 50 เซนติเมตร (ซม.) ถึง 1.20 เมตร ประมาณ 400 ท่อน และเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุม นายชัยรัตน์ อุ่นแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.12 ต.กระหวัน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขับรถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บน 3025 มหาสารคาม บรรทุกไม้พะยูง จำนวน 8 ท่อน เต็มกระบะท้ายรถ ซึ่งกำลังนำเอาไม้พะยูงมาขายให้แก่ นายพินิพล ที่เป็นนายหน้ารับซื้อไม้พะยูงจากชาวบ้านเพื่อขายต่อให้แก่นายทุน และกำลังนำเอารถบรรทุก 10 ล้อมารับซื้อพะยูงดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจค้นภายในหมู่บ้านหนองบัว และพบรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 81-8538 อุบลราชธานี บรรทุกไม้พะยูงเต็มกระบะท้าย จำนวนประมาณ 550 ท่อน จอดอยู่ข้างโรงเรียนบ้านหนองบัว ไม่พบเจ้าของรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดรถ และไม้พะยูงทั้งหมด พร้อมทั้งได้ตรวจค้นรอบหมู่บ้านพบไม้พะยูงกองอยู่ในป่ายางพาราทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน จำนวนประมาณ 50 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดไปที่ สภ.ขุนหาญ โดยไม้พะยูงทั้งหมดมีจำนวนประมาณ 1,000 ท่อน/เหลี่ยม หากส่งไปขายที่ประเทศจีน จะมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการจับไม้พะยูงรายใหญ่ที่สุดของ จ.ศรีสะเกษ ในรอบ 10 ปี
สอบสวนเบื้องต้น นายพินิพล ผิวงาม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 ม. 6 บ้านหนองบัว ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของไม้พะยูงทั้งหมดที่อยู่ในบ้าน และที่กำลังขนขึ้นบนรถบรรทุกสิบล้อ โดยได้รับซื้อไม้พะยูงขนาดต่างๆ จากชาวบ้านในราคากิโลกรัม (กก.) ละ 30 บาท จากนั้นจะนำเอาไม้พะยูงทั้งหมดที่รับซื้อไว้ขายต่อให้แก่นายทุนที่มารับซื้อถึงบ้านในราคา กก.ละ 55 บาท เพื่อส่งไม้พะยูงทั้งหมดไปขายยังประเทศจีน
โดยสาเหตุที่มารับซื้อไม้พะยูงจากชาวบ้าน เนื่องจากยางพาราที่ปลูกไว้ราคายางตกต่ำมาก จึงหันมารับซื้อไม้พะยูงส่งขายต่างประเทศ โดยแต่ละเที่ยวหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วจะได้กำไรเที่ยวละกว่า 100,000 บาท
ขณะที่ นายชัยรัตน์ อุ่นแก้ว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.12 ต.กระหวัน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ให้การรับสารภาพว่า ตนทำสวนยางพารา และได้หาไม้พะยูงมาขายให้แก่นายพินิพล ที่บ้านหนองบัว โดยจะมีรายได้วันละประมาณ 2,000-3,000 บาท ตามแต่จำนวนไม้พะยูงที่หามาได้ในแต่ละวัน
เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อหาว่า ร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไม้หวงห้ามอันยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป