จันทบุรี - ช้างป่าในพื้นที่จันทบุรี ออกทำลายกัดกินพืชไร่ผลไม้-ปาล์มน้ำมัน ใกล้บ้านเรือนชาวบ้าน สำนักสงฆ์อีก หลังแหล่งอาหาร และน้ำในป่าหมด หวั่นชาวบ้านได้รับอันตราย
เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.57 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายบุญนาค พุ่มพวง หัวหน้าชุดดูแลช้างป่าบ้านคลองโป่งเขาแหลม ว่า มีช้างป่าได้ลงจากเขาแหลมหนีความแห้งแล้งมาหากินใกล้กับสำนักสงฆ์บ้านคลองโป่ง และใกล้กับหมู่บ้าน หมู่ที่ 10 ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ขอให้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาทำข่าวด้วย
หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ร่วมกับชุดดูแลช้างป่าบ้านคลองโป่งเขาแหลม ที่ชาวบ้านได้จัดตั้งขึ้น พบช้างป่ายืนประจันหน้ากับชุดดูแลช้างป่าบริเวณป่ายางพาราใกล้สำนักสงฆ์บ้านคลองโป่ง ทำให้ชุดดูแลช้างป่าต้องมีการใช้ประทัด เสียง และไฟส่องเพื่อขับไล่ช้างป่าให้กลับขึ้นเขาแหลมไป ซึ่งชาวบ้านพบเห็นว่า ช้างป่าได้ลงจากเขาแหลมมาจำนวน 10 ตัว กระจายหากินอยู่รอบหมู่บ้าน และใกล้กับสำนักสงฆ์บ้านคลองโป่ง
ในเบื้องต้นชุดดูแลช้างป่าคาดว่า แหล่งอาหาร และแหล่งน้ำบนเขาแหลมหมดลงเพราะเกิดจากภัยแล้ง ประกอบกับพื้นที่โป่งเทียมไม่มีอาหารให้ช้างป่ากินเนื่องจากเงินกองทุนเพื่อช้างป่าที่นำมาจัดซื้ออาหารให้ช้างไม่มีแล้ว รวมทั้งสับปะรดที่ผู้มีจิตศรัทธาซื้อมาเทกองให้ช้างป่าก็ไม่เพียงพอต่อประชากรช้างป่าที่ลงจากเขาแหลมมามากเกินไป ทำให้ช้างป่าจึงต้องลงจากเขามาหากินในพื้นที่หมู่บ้าน และสำนักสงฆ์เพื่อความอยู่รอดแทน และได้ทำลายกัดกินเหยียบย้ำพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเสียหาย
นายบุญนาค พุ่มพวง หัวหน้าชุดดูแลช้างป่า กล่าวว่า ช้างป่าที่ลงมาจากเขานั้นน่าจะมาจากบนเขาแหลม ไม่มีแหล่งอาหาร และแหล่งน้ำให้ช้างป่ากิน ประกอบกับอาหารที่ช้างป่าเคยได้กินในพื้นที่โป่งเทียมก็ไม่มีแล้ว เนื่องจากชาวบ้าน และสำนักสงฆ์ไม่มีเงินที่จะซื้ออาหารให้ช้างป่ากิน รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธาที่นำผลไม้สับปะรดที่เป็นอาหารของช้างป่าก็มีการเข้ามาบริจาคน้อย จึงทำให้อาหารไม่เพียงพอ จึงทำให้ช้างป่าต้องลงจากเขาเข้ามาหากินในหมู่บ้าน ทำให้ชุดดูแลช้างป่าต้องทำงานหนักในการจัดเวรยามเพื่อป้องกันไม่ให้ช้างป่ารุกคืบเข้าใกล้หมู่บ้าน และสำนักสงฆ์มากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ชาวบ้าน และผู้ปฏิบัติธรรมได้รับอันตรายได้ จึงต้องมีการจัดเวรยามเฝ้าตลอดทั้งคืนทุกวันต่อไปอีกด้วย